สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ 159,187 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 140,769 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 88.1% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 15,298 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.6% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,053 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB145B LB155A และLB176A (รุ่นอายุ 1.3 ปี 2.4 ปี และ 4.4 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 8,943 ล้านบาท หรือคิดเป็น 58% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) (SCC16NA) มูลค่า 629 ล้านบาท
2. บริษัท โตโยต้า ลิสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด (TLT138A) มูลค่า 506 ล้านบาท
3. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI165A) มูลค่า 202 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,337 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 33,871 ล้านบาท
2. กลุ่มนิติบุคคลในประเทศ ซื้อสุทธิ 26,145 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 18,700 ล้านบาท
Yield Curve Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-2 bps. ปริมาณการซื้อขายกระจุกตัวอยู่ที่พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยที่ประมูลในวันนี้ ด้านนักลงทุนคาดการณ์ว่าการประชุมกนง.ในวันพรุ่งนี้น่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% ส่วนนักลงทุนต่างประเทศมียอดซื้อสุทธิ 18,700 ล้านบาท