การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,432.21 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,417.91 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 295 หลักทรัพย์ ลดลง 340 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 169 หลักทรัพย์
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลง โดยตลาดพยายามจะปรับตัวขึ้นไปแต่ก็ไม่สามารถผ่านแนว 1,430 จุดขึ้นไปได้ ซึ่งคาดว่าวันนี้นักลงทุนต่างชาติคงจะขายทำกำไรออกมาบ้าง จะเห็นได้ว่าหุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีเริ่มโดนขายบ้างแล้ว ซึ่งมองว่าดัชนีฯแถว 1,420-1,430 จุด น่าจะเริ่มมีการขายทำกำไรกัน
"วันนี้จะเห็นได้ว่าได้มีการเข้าไปเล่นเก็งหุ้นขนาดเล็กกันไป ซึ่งพวกนี้ก็ไม่ได้มีพื้นฐานหนุน ส่วนหุ้นในตลาดฯหลาย ๆ ตัวก็ได้เกือบเต็มมูลค่าของปี 56 กันแล้ว นี่ก็เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่าตลาดฯกำลังจะปรับฐาน"นายภาดล กล่าว
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็มีการแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของตลาดฯยังเป็นเรื่องการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ในสหรัฐฯที่ยังต้องติดตามดูต่อไป และเรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
ด้านปัจจัยในประเทศก็เป็นเรื่องของการประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ ซึ่งเชื่อว่าผลที่ออกมาน่าจะ Inline กับที่คาดการณ์ไว้ หรืออาจจะต่ำกว่าที่ตลาดฯคาดไว้ เพราะไตรมาส 4 มักจะมีการตั้งสำรองฯกันค่อนข้างมาก
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(16 ม.ค.)นายภาดล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซต์เวย์ในกรอบแคบ แต่ก็ควรจะรอดูทิศทางการลงทุนของต่างชาติในวันนี้อีกทีว่าขายออกมามากแค่ไหน พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,415-1,425 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 2,679.95 ล้านบาท ปิดที่ 23.60 บาท เพิ่มขึ้น 2.90 บาท
BLAND มูลค่าการซื้อขาย 2,494.44 ล้านบาท ปิดที่ 1.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท
QH มูลค่าการซื้อขาย 1,693.98 ล้านบาท ปิดที่ 2.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,626.37 ล้านบาท ปิดที่ 335.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
NMG มูลค่าการซื้อขาย 1,503.39 ล้านบาท ปิดที่ 2.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท