(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ามีโอกาสรีบาวน์ เงินบาทแข็งค่าหนุน Flow เข้าต่อเนื่อง

แนวโน้มค่าเงินบาทในระยะสั้นแข็งค่าไปทดสอบจุดที่เคยแข็งค่ามากที่สุดในปี 2009 อยู่ที่ 29.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนของกระแสเงินทุนไหลเข้า อย่างไรก็ดีอาจเห็นจังหวะในการขายทำกำไรเกิดขึ้น จากการขึ้นของดัชนีที่อาจจะอยู่ในกรอบจำกัด โดยมีแรงขายจากกองทุน LTF , Trigger Fund และความกังวลเกี่ยวกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเร็วเกินไป จะทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบสลับกัน ประมาณ 0.2-0.3% ส่วนตลาดหุ้นที่ดัชนีลงหนักสุด คือ จีน เนื่องจากความกังวลการปรับลดการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจจีนปี56ของ World Bank อยู่ที่ 7.9% จากปี 55 ที่ 8.2%

พร้อมให้แนวรับ 1,410-1,413 จุด แนวต้าน 1,428-1,432 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(16 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,511.23 จุด ลดลง 23.66 จุด(-0.17%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,472.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.29 จุด(+0.02%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,117.54 จุด เพิ่มขึ้น 6.77 จุด(+0.22%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 60.50 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 114.68 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 48.14 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.22 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.69 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.26 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.60 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(16 ม.ค.) 1,416.14 จุด ลดลง 6.72 จุด(-0.47%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 587.37 ล้านบาท เมื่อ 16 ม.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(16 ม.ค.)ที่ 94.24 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.96 ดอลลลาร์หรือ 1%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(16 ม.ค.) ปิดที่ 7.4 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.72/74 คาดวันนี้แข็งค่าต่อ เงินทุนไหลเข้าภูมิภาค-ตลาดหุ้น
• ค่าเงินบาทแข็งค่าไม่หยุด หลุด 30 บาทต่อดอลลาร์ สวนทางสกุลเงินภูมิภาค เทรดเดอร์ชี้เงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง สมาคมตราสารหนี้ระบุสัญญาณชัดต่างชาติเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนจากสัญญาณแห่ซื้อพันธบัตรระยะสั้น ขณะส่งออกเริ่มผวาผลกระทบ
• "แบงก์ชาติ"รับพบนักลงทุนไทยเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เหตุดอกเบี้ยต่ำกดดันนักลงทุนวิ่งหาสินทรัพย์ลงทุนให้ผลตอบแทนสูงขึ้น ย้ำไม่น่าห่วง ขณะที่ 3 บริษัทใหญ่กลุ่มอสังหาฯ"แสนสิริ-ชาญอิสระ-ยูนิเวนเจอร์"แห่ขยายลงทุน
• เอสเอ็มอีญี่ปุ่นกว่า 1,000 ราย รุกลงทุนไทยปีนี้ มูลค่ารวม 1 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 6 ปี เน้นอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์-บริการ หวังใช้เป็นประตูสู่อาเซียน ชี้ไทยมีความพร้อมด้านสาธารณูปโภค ช่วยให้เริ่มต้นธุรกิจได้รวดเร็ว เผยบางส่วนย้ายฐานผลิตหนีจีนหลังเกิดข้อพิพาทในทะเลจีนใต้
• นายศิริ การเจริญดี กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ติดตามภาวะเงินทุนไหลเข้าที่จะกระทบต่อค่าเงินบาทตั้งแต่ปลายปี 2555 และเตรียมมาตรการไว้รองรับแล้ว แต่จะไม่ใช่มาตรการสกัดเงินไหลเข้าเพราะจะส่งผลเสียระยะยาว ต่างประเทศจะเข็ดขยาดการลงทุนในไทยได้
• นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมการค้าภายในไปประเมินสถานการณ์ราคาสินค้า โดยศึกษาว่ากลุ่มสินค้าใดยังสามารถแบกรับภาระต้นทุนจากค่าแรงที่ปรับขึ้นได้และให้เรียกมาหารืออย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ เพื่อขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าอย่างน้อย 3 เดือนตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลไม่ให้ปรับขึ้นราคาจากค่าแรง 300 บาท

*หุ้นเด่นวันนี้

• MSC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 7.45 บาท เป็นบริษัทเล็กในกลุ่มสื่อสารที่น่าสนใจจาก 1) ราคาหุ้น “ถูก" เมื่อเทียบกับแนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิ 3 ปีข้างหน้า 2) ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าที่จำหน่าย และรูปแบบการขายตรงกับลูกค้าองค์กร ช่วยให้รักษาอัตรากำไร 3) มีฐานะการเงินดี หนี้สินต่อทุนต่ำและใช้เงินลงทุนไม่มาก จึงมีความพร้อมลงทุนใหม่ และสามารถจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี 5-6%
• TTCL (เกียรตินาคิน)"เก็งกำไร"เป้า 42.50 บาท ราคาหุ้นในปี 2556 จะขยับขึ้นมาเพียง 12.2% YTD เทียบกับ CK และ ITD ที่ปรับตัวขึ้นมาแล้วโดยเฉลี่ย 22.5% YTD ขณะที่ในเชิงของพื้นฐานการที่ล่าสุดบริษัทได้งานใหม่ในส่วนของการก่อสร้างโรงงานแปลงน้ำทะเลเป็นน้ำจืดในประเทศกาตาร์ มูลค่า 6.4 พันล้านบาทเข้ามา ทำให้เมื่อรวมเข้ากับโครงการในสหรัฐ และโรงไฟฟ้าในพม่าแล้วมูลค่างานในมือเฉพาะในปี 2556 ของบริษัทจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท Consensus ประเมินกำไรสุทธิในปี 2556 ไว้ที่ราว 786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% YoY และประเมินมูลค่าเหมาะสมไว้ที่ 42.50 บาท
• SIMAT(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 9.20 บาท ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่ โดยเบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q55 จะเติบโตสูงถึง +130% qoq เป็น 30 ล้านบาท และเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดของปี เมื่อเทียบกับ 9M55 ที่มีกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท