หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 29.16 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 13,540.39 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.23 จุด หรือ 0.29% แตะที่ 1476.86 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 12.14 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 3,129.68 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ม.ค. ปรับตัวลง 37,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 335,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551 ซึ่งนอกจากจะลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวลงมาอยู่ที่ 365,000 รายแล้ว ยังเป็นการปรับตัวลงรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2553 เป็นต้นมา สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนธ.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 12.1% แตะที่ 954,000 ยูนิต/ปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 890,000 ยูนิต/ปี และเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 4 ปี ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 903,000 ยูนิต ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้ง
นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัท อินเทล คอร์ป, ซิตี้กรุ๊ป และแบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้
หุ้นอีเบย์พุ่งขึ้น 3.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในไตรมาส 4/2555 พุ่งขึ้น 18% แตะที่ 3.99 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 3.98 พันล้านดอลลาร์
ส่วนหุ้นโบอิ้งร่วงลง 1.4% หลังจากสำนักงานการบินแห่งชาติของสหรัฐ (FAA) ประกาศว่า FAA จะระงับการให้บริการการบินด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 787 เป็นการชั่วคราว หลังจากเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรีลิเธียมไอออนที่ไม่มีประสิทธิภาพ
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์ส (ANA) และเจแปน แอร์ไลน์ (JAL) ตัดสินใจหยุดให้บริการด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 787 เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย โดยเฉพาะสายการบิน ANA ที่ต้องนำเครื่องร่อนลงจอดฉุกเฉินหลังจากเครื่องบินเดินทางออกจากสนามบินยามากูชิ อูเบะ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงโตเกียว เนื่องจากพบข้อบกพร่องของแบตเตอรีลิเธียมไอออน