(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นตามตลาดภูมิภาค, ไร้ปัจจัยลบ-เม็ดเงินยังไหลเข้า

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ปรับตัวขึ้นตามตลาดสหรัฐฯที่ขึ้นทำ New High ซึ่งหากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเข้ามาเสริมอีก ก็จะทำให้เงินไหลเข้ามามากขึ้น

สำหรับผลประกอบการของสถาบันการเงินในประเทศที่ประกาศออกมาก็เป็นไปตามคาดหมายกันไว้อยู่แล้ว ซึ่งมองว่าตลาดฯคงจะมีการกลับมาเล่นหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่มากขึ้น โดยมองกลุ่มแบงก์ และกลุ่มปิโตรเคมี อาจจะกลับมาหนุนตลาดฯได้บ้าง

พร้อมให้แนวรับ 1,434 จุด แนวต้าน 1,450 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(22 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,712.21 จุด เพิ่มขึ้น 62.51 จุด(+0.46%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,492.56 จุด เพิ่มขึ้น 6.58 จุด(+0.44%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,143.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.47 จุด(+0.27%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 134.33 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 14.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.85 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.42 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.90 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 9.50 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(22 ม.ค.)1,434.09 จุด ลดลง 6.39 จุด(-0.44%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 801.36 ล้านบาท เมื่อ 22 ม.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(22 ม.ค.)ที่ 96.24 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.68 ดอลลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(22 ม.ค.) ปิดที่ 7.4 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.73/75 รอความชัดเจนจากปัจจัยตปท.
• แบงก์ชาติพร้อมงัดมาตรการดูแลเงินบาทเต็มที่ไม่กังวลกระทบงบดุล ลั่นหากสถานการณ์จำเป็นพร้อมใช้โดยไม่ลังเล แม้มีต้นทุน ขณะที่หนุนธุรกิจใช้เงินท้องถิ่นลดผลกระทบ นำร่องเงินหยวน เตรียมเปิดช่องเอกชนลงทุนเพื่อนบ้านเพิ่ม
• บีโอเจ ออกมาตรการดันเศรษฐกิจพ้นภาวะเงินฝืด หันไปใช้นโยบายเข้าซื้อสินทรัพย์ปลายเปิดแบบไม่กำหนดเวลาสิ้นสุด ตั้งแต่ปีหน้า พร้อมเพิ่มเป้าหมายเงินเฟ้อ 2 เท่า เป็น 2% "อาเบะ" ชมดำเนินนโยบายการเงินกล้าหาญ นักวิเคราะห์เตือนมาตรการกระตุ้นส่งผลดีแค่ระยะสั้น คาดเงินทะลักภูมิภาค
• กลุ่มสิ่งทอ-แฟชั่นไทย ปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจครั้งใหญ่ เล็งเปิดฐานผลิตใหม่นอกบ้าน มุ่งหน้า ลาว กัมพูชา อินโดฯ เน้น "จ้างผลิต" หนีปัญหาต้นทุน-แรงงานฝีมือขาด ทั้งเตรียมความพร้อมระบบโลจิสติกส์สานแผนสยายปีกอาเซียน
• ผู้ว่าการธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) แสดงความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกกำลังขาดความเป็นอิสระ เนื่องจากถูกคุกคามจากฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะญี่ปุ่นและฮังการี ซึ่งจะส่งผลให้การวางนโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยนถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง
• รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ประเมินว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบขนส่งภายใน 7 ปีครึ่ง ภายใต้ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้มากกว่ากรณีไม่มีการลงทุนปีละ 1% โดยจะขยายตัว 5-6% ขณะที่หากไม่มีการลงทุนจะขยายตัว 4-5%
• ตลาดหลักทรัพย์สั่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจ โบรกเกอร์ที่มีรายการซื้อขายหุ้นที่เข้าเกณฑ์ให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้า หวังสกัดแรงเก็งกำไรหุ้น หลังราคาหุ้นเล็กร้อนแรงเกิดปัจจัยพื้นฐานดันพีอีทะยานเกิน 40 เท่ากว่า 60 บริษัท
• นายกฯ ตีปี๊บเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 5.5% ลั่นเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน ทำให้อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 0.7% เผย 4 ยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนประเทศและรองรับเข้าสู่ AEC สร้างความสามารถในการแข่งขันลดความเหลี่อมล้ำ สร้างความเติบโตบนพื้นฐานคุณภาพชีวิตและปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
• ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า จะมีการนำแผนการเปิดเสรีในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ เพื่อเปิดทางให้นักลงทุนต่างชาติรายใหม่ และรายเดิมที่ทำธุรกิจธนาคารในไทยอยู่แล้วสามารถขยายและจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ใหม่ได้ เสนอต่อกระทรวงการคลังภายในไตรมาสแรกปีนี้ และในไตรมาส 2 ของปีนี้ และเริ่มเปิดจริงจังให้รายใหม่เข้ามาได้ภายในต้นปี 2557 ต่อไป

*หุ้นเด่นวันนี้

• BEC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 73.20 บาท ราคาหุ้นอ่อนตัว 5—6% ช่วง 1 เดือนหลังถูกปัจจัยลบกดดันทั้งความเสี่ยงจากการลดการใช้โฆษณารายการนายสรยุทธ, การต่อต้านช่อง 3 หลังถอดละครที่ออกอากาศกลางคัน และการเกิดดิจิตอลทีวี ทำให้มีส่วนต่างเมื่อเทียบกับมูลค่าเหมาะสมเพิ่มขึ้นเป็น 9-10% ขณะที่คาดกำไรปี 56 ยังเติบโตโดดเด่น 21% YoY ผลจากการปรับขึ้นค่าโฆษณาตั้งแต่ต้นปีอย่างก้าวกระโดด 5—50% ในกว่า 30 รายการ
• LALIN(เกียรตินาคิน)"เก็งกำไร"ค่อนข้าง Laggard มากเมื่อเทียบกับกลุ่ม โดยปี 56 ขึ้นมาเพียง 10.4% เทียบกับกลุ่มบ้านขึ้นมาเฉลี่ย 15% เชิงมูลค่ายังคงซื้อขายต่ำว่า BV ที่ 4.8 บาท 30% เป็นอีกบริษัทที่ให้ Dividend Yield สูงเฉลี่ยราว 5% แนวโน้มปี 56 ตั้งเป้ายอดขายโต 20% จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 8-10 โครงการมูลค่าราว 2.6 พันล้านบาท
• LOXLEY (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 7.10 บาท คาดราคาหุ้นจะได้รับ Momentum เชิงบวกหลังผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเผยเตรียมแผนสำรองไว้กรณีที่การแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลปี 2517 ล่าช้า โดยจะอนุมัติให้จำหน่ายหวยออนไลน์ไปก่อน และไม่ต้องรอให้แก้กฎหมายเสร็จ เบื้องต้นคาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q55 ที่ 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย qoq และพลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ ใน 4Q54,คาดได้รับประโยชน์โดยตรงโครงการ Smart Thailand
• BCP(กรุงศรี)"ซื้อ"แนวโน้มผลประกอบการปี 56 กลับมาเติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มพลังงาน อีกทั้งเป็นโรงกลั่นที่มีความเสี่ยงในการดำเนินงานต่ำกว่าคู่แข่งจากการมีธุรกิจโซลาร์ฟาร์มที่มีสัดส่วน EBITDA คิดเป็น 20% เมื่อดำเนินงานครบทั้ง 3 เฟส พ่วงด้วยแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนอย่างเร็วกลางปีนี้ โดยได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 56 ขึ้น 15% สะท้อนรายได้พิเศษจากเงินประกันเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ผ่านมา และปรับมูลค่าพื้นฐานขึ้นเป็น 37 บาท