(เพิ่มเติม1) SAMARTเป้าปี 56กำไรโต 50%จากปี 55 ทะลุพันลบ.,ส่ง"วันทูวัน"เข้าตลาดหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 23, 2013 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMRT) กล่าวว่า ในปี 56 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 3 หมื่นล้านบาทก้าวกระโดดจากปีก่อน และกำไรเพิ่มขึ้น 50% จากปี 55 ที่ทำกำไรทะลุ 1 พันล้านบาท

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SAMART กล่าวว่า ปี 55 อัตราการเติบโตของกำไรที่เพิ่มขึ้นทะลุ 1 พันล้านบาทและการเติบโตของรายได้ประจำ ซึ่งในปี 55 มีรายได้ประจำถึง 5,400 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของรายได้รวม ยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจโมบายก็ส่อแววฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดนับจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายเครื่องไอ-โมบาย Smart Phone ถึง 400,000 เครื่องในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ส่วนธุรกิจด้านไอซีที แม้จะมีการดีเลย์ของบางโครงการ แต่ก็ยังกวาดงานเข้ามาในมือรวมมูลค่าสัญญากว่า 7,000 ล้านบาท

ในปี 56 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 30,000 ล้านบาท คิดเป็นรายได้จากสาย ICT Solutions 15,000 ล้านบาท Mobile Multi-media 11,000 ล้านบาท สายธุรกิจ Related Businesses 2,400 ล้านบาท และสายธุรกิจ Utility Services 1,655 ล้านบาท

สำหรับสาย ICT Solutions นำโดย SAMTEL ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท คาดกำไร 70% ปัจจุบันมีงานสะสมในมือ ( Backlog) มูลค่ารวมกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายเข้าประมูลงานใหญ่รวมมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ 3G เฟส 2 ของทีโอที รวมถึงโครงการต่างๆของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, กรมสรรพากร, กรุงเทพมหานคร และอื่นๆ

SAMART เตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการ 3G เฟส2 มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท จำนวน 1 หมื่นสถานีฐาน คาดว่าทีโอทีจะเปิดประมูลในไตรมาส 2/56 หรือ เม.ย.-พ.ค. 56 โดยบริษัทจะหาพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมประมูล และตั้งเป้าได้งานไม่น้อยกว่า 500 สถานีฐาน ส่วนโครงการ 3G เฟสแรก ณ สิ้นปี 55 ติดตั้งได้ 3,800 สถานีฐาน และเพิ่มเป็น 4,000 สถานีฐานในปลายก.พ.56 จะแล้วเสร็จครบ 5,200 สถานีฐานในเดือน พ.ค. นี้คาดจะเริ่มเฟส 2 ได้ในเดือน พ.ค. -มิ.ย. นอกจากนี้ จะติดตั้งโครงข่าย 4G ให้กับทีโอที 200 สถานีฐานในก.พ.นี้ด้วย

สาย Mobile Multi-media นำโดย บมจ.สามารถไอ-โมบาย ตั้งเป้ารายได้ที่ 11,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 200% โดยปี 56 จะเป็นปีแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจโมบายและคอนเทนต์ อันเนื่องมาจากการขยายเครือข่าย 3G อย่างจริงจังและรวดเร็วของทุกค่ายโอเปอเรเตอร์ ก่อให้เกิดโอกาสทางการตลาดอย่างมหาศาล บริษัทฯ จึงตั้งเป้ายอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในปีนี้ 3.2 ล้านเครื่อง คิดเป็น Smart Phone 2.2 ล้านเครื่อง หรือ 70% ของจำนวนเครื่องทั้งหมด ล่าสุดประกาศเปิดตัว iQ6 ในราคาสุดคุ้มตามสไตล์ไอ-โมบาย

ด้านธุรกิจ MVNO ภายใต้ i-mobile 3GX มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มเป็น 1.2 ล้านรายในสิ้นปี 56 สำหรับแผนงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มโมบาย-มัลติมีเดียในระยะยาวได้มีการกำหนดเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3 ปี ผลิตภัณฑ์และบริการของกลุ่มโมบาย-มัลติมีเดีย อาทิ โทรศัพท์มือถือ บริการคอนเทนต์ และบริการ MVNO จะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตแบบ Mobility ของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยจะมุ่งเน้นที่กลุ่ม Mass ซึ่งมีฐานตลาดขนาดใหญ่

ทั้งนี้ ในเดือน ก.พ.บริษัทจะเซ็นสัญญากับบมจ.ทีโอที ในการเป็น MVNO จำนวน 2.8 ล้านเลขหมาย หรือ 40%ของความจุปริมาณโครงข่าย(capacity)ของทั้งหมด 7 ล้านเลขหมาย หลังจากล่าช้าในปีก่อน โดยมีระยะเวลา 12 ปี

สายธุรกิจ Related Businesses ตั้งเป้ารายได้ 2,400 ล้านบาท จากบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด ผู้ให้บริการ Contact Center คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 3/56 และเตรียมขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศทั้งกัมพูชา พม่า และลาว ต่อไป ด้านบริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด ปัจจุบันได้ขยายไลน์การผลิตจากเสาอากาศและจานดาวเทียมไปสู่อุปกรณ์รับ-ส่งสัญญานอื่นๆ เช่น กล่องรับสัญญานดิจิตอลทีวี มั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างชัดเจน ส่วนบริษัท วิชั่นแอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด ปัจจุบันมีงานในมือมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท และมีงานที่จะเข้าประมูลในปีนี้ มูลค่าราว 1,200 ล้านบาท

นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า บริษัท สามามารถวิศวกรรม จำกัด เตรียมยื่นขอใบอนุญาต Network Digital ซึ่งได้ตั้งงบลงทุนประมาณ 800-1,000 ล้านบาท ขณะนี้มีสถานีโทรทัศน์ช่อง 5, ช่อง9 (MCOT) และช่องไทยพีบีเอส ขอใช้ Network ของบริษัททดลองออกอากาศ รวมทั้งเตรียมจำหน่าย Set top box ที่ใช้แปลงสัญญาณทีวีเป็นดิจิตอล คาดราคาขายประมาณ 1-2 พันบาท/หน่วย

และ สุดท้ายสายธุรกิจ Utility Services ตั้งเป้ารายได้ 1,655 ล้านบาท โดยนอกจากจะมีรายได้ที่สม่ำเสมอจากบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด (CATS) และบริษัท Kampot Power Plant จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้าป้อนแก่โรงงานปูนซิเมนต์ไทยที่ประเทศกัมพูชาแล้ว ยังมีความคืบหน้าในการขยายธุรกิจด้านสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างต่อเนื่อง เช่น การควบรวมกิจการบริษัท เทด้า จำกัด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าและระบบสายส่งไฟฟ้า ซึ่งต่อไปจะเป็นหัวหอกสำคัญในการขยายธุรกิจด้านพลังงานทั้งนี้ มีแผนในการเข้าร่วมประมูลโครงการมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทในระยะเวลา 3 ปี

“บริษัทฯ ตอบรับความท้าทายอย่างมั่นใจด้วยการตั้งเป้ารายได้ในปี 56 แบบก้าวกระโดดถึง 3 หมื่นล้านบาทและในแผนงานของทุกธุรกิจในเครือก็ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ประจำและการเติบโตแบบยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า กลุ่มสามารถจะต้องมีรายได้ประจำไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท"นายวัฒน์ชัย กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ