นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสเปิดบวก แต่อาจมีแรงขายทำไรออกมาได้ เนื่องยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนตลาด ประกอบกับเมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 โดยมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าวันนี้จะยังมีแรงขายจากต่างชาติต่ออีก
ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้าวันนี้มีส่วนใหญ่เปิดมาเป็นลบ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนเข้ามาหนุนตลาดในช่วงนี้ ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา
พร้อมให้แนวต้าน 1,495-1,500 จุด แนวรับ 1,475-1,480 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(30 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,910.42 จุด ลดลง 44.00 จุด(-0.32%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,501.96 จุด ลดลง 5.88 จุด(-0.39%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,142.31 จุด ลดลง 11.35 จุด(-0.36%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 56.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 0.11 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 3.65 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.41 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.40 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 4.00 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(30 ม.ค.)1,490.82 จุด เพิ่มขึ้น 12.05 จุด(+0.81%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,395.45 ล้านบาท เมื่อ 30 ม.ค.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(30 ม.ค.)ที่ 97.94 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.37 ดอลลลาร์หรือ 0.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(30 ม.ค.) ปิดที่ 9.1 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.76/78 ทรงตัว แต่แนวโน้มแข็งค่า
- "วีรพงษ์"เรียกร้องแบงก์ชาติ ลดดอกเบี้ยสกัดเงินทุนไหลเข้า อัดไม่เข้าใจทุนเคลื่อนย้าย เตือนหลุด 28 บาท/ดอลลาร์ ภาคอุตสาหกรรมอ่วม ด้าน "บัณฑิต"ชี้ไม่ใช่วิธีเดียว หวั่นกระทบด้านอื่น ขณะ "กิตติรัตน์"ยันไม่มีนโยบายคุมเงินทุน-ภาษีสกัดเงินร้อน เตรียมหามาตรการดูแลเงินระยะสั้น
- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 30 ม.ค.โดยสั่งให้ตั้งทีมนักเศรษฐศาสตร์การเงิน เพื่อหารือกำหนดมาตรการที่จำเป็นรับมือค่าเงินบาทผันผวน
- บล.บัวหลวงคาดแนวโน้มหุ้นไทยปรับตัว ขึ้นแตะ 1,550 จุด ภายในครึ่งแรกของ ปีนี้ แต่จะผันผวนช่วงสั้น จากแรงเก็งกำไร น่าจะกดดัชนีทรุดไม่เกิน7% ด้าน"ทองมา" เจ้าของพฤกษาฯ มั่นใจภาพรวมอสังหายังเติบโต คาดราคาบ้านขยับ 7-10% ต่อเนื่องจากนี้ไป 2-3 ปี เหตุต้นทุนพุ่ง พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 26%
- สบน.เตรียมออกพันธบัตรเงินเฟ้อรุ่นที่ 2 อายุ 15 ปี วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท มีเป้าหมายเพื่อสร้างอัตราผลตอบแทนอ้างอิงและขยายฐานนักลงทุน คาดว่าได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี หลังจากประสบความสำเร็จจากการออกพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อรุ่นแรกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับที่จูงใจ โดยจะกำหนดดอกเบี้ย และเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปภายในเดือนมี.ค.นี้
- สถาบันการเงินต่างชาติจองขอใบอนุญาตเป็นธนาคารต่างชาติที่จดทะเบียนในไทยเพิ่มขึ้นเป็น 3-5 ราย ส่วนใหญ่เป็นสถาบันการเงินในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก มองไทยมีศักยภาพ ฐานการเงินดีสามารถต่อยอดเออีซีได้ เน้นเจาะตลาดสินเชื่อขนาดใหญ่ สินเชื่อส่วนบุคคล
- นายวัลลภ เตชะไพบูลย์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) กล่าวว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทำให้เกิดปัญหาภาคเอกชนอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีที่ต้องประสบปัญหาต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้น ซึ่ง บสย.พร้อมที่จะดูแลลูกค้าที่ประสบปัญหาเหล่านี้อย่างเต็มที่โดยตั้งวงเงินไว้รวม 2.4 แสนล้านบาท
- สศค.ชี้จีดีพีไตรมาส 4 ปี'55 โตพุ่ง 15.9% จากฐานปีก่อนต่ำ ติดลบ 8.9% ส่งผลทั้งปีโตตามเป้า 5.7% คาดการณ์ปีนี้โต 5% ตามคาด มองเงินบาทแข็งค่าไม่ส่งผลกระทบทั้งจีดีพี ส่งออกโตได้ 2 หลัก ที่ 10% เพื่อความแม่นยำเล็งทบทวนตัวเลขใหม่เดือนมีนาคมนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- VGI(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"ผู้บริหารปรับเป้าหมายการเติบโตปี 2556/57 ขึ้นเป็น 30% YoY หลังรายได้สื่อโฆษณาในห้างค้าปลีกมีแนวโน้มเติบโตดีกว่าคาด โดยมียอดจองซื้อโฆษณาล่วงหน้าเติบโตถึง 70% YoY ทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของรายได้ปี 2556/57 ขึ้นเป็น 23% YoY และประเพิ่มมูลค่าเหมาะสมขึ้นเป็น 117 บาท โดยมีจุด Cut Loss และแนวรับ 108.00 บาท และแนวต้าน 117.00 บาท
- MSC (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 7.45 บาท มองเป็น Cash Cow และ Stock dividend (yield 5-6%) ที่น่าสนใจในหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดเล็ก โดยเชื่อว่า MSC มีปัจจัยบวกหนุนการเติบโตจากกระแส Big Data และการปรับตัวของภาคธุรกิจสู่ AEC จะทำให้องค์กรต่างๆ ต้องปรับปรุงอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ไอทีและซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภายใน
- PTTEP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 182 บาท เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวของผลประกอบการ 1Q56 ที่คาดว่ากำไรปกติจะเพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq ตามการไต่ระดับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ และเชื่อว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มกลับมา Outperform ตลาดได้ หากโครงการมอนทาราสามารถดำเนินการผลิตได้ใน 2Q56 ซึ่งจะทำให้นักลงทุนกลับมาเชื่อมั่นต่อทิศทางการเติบโตในระยะยาว คาดกำไรปกติปี 2556 เติบโต +16.9% yoy เป็น 62,784 ล้านบาท และ Overhang จากการเลื่อนผลิตของโครงการมอนทาร่า ส่งผลให้ Valuation ยังค่อนข้างต่ำ รวมทั้งให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี
- TMT(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 11.50 บาท บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้เติบโตประมาณ 20% จากปี 2555 ที่คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าภาพรวมธุรกิจเหล็กน่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยแนวโน้มความต้องการเหล็กของลูกค้าที่สูงขึ้น ทั้งกลุ่มธุรกิจก่อสร้าง กลุ่มพลังงาน และกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร โดยซื้อขาย P/E ปี 2556 ต่ำ, เงินปันผลตอบแทน 7%