อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงมาตรการต่างๆนั้นจะต้องคำนึงถึงนักลงทุนรายย่อยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องไม่ได้รับผลกระทบด้วย
นายภากร กล่าวว่า ตลท.ใช้เกณฑ์ cash balance เพื่อเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขายหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ซึ่งก็สามารถลดปริมาณวอลุ่มลงได้ แต่ไม่สามารถที่จะหยุดราคาที่ปรับตัวขึ้นไปอย่างผันผวนได้ แม้ว่า ตลท.มองว่าการเก็งกำไรไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ต้องควบคุมให้เหมาะสม เพราะตั้งแต่ต้นปีนี้มีหุ้นที่ติด cash balance ไปแล้วกว่า 20 ตัว จากทั้งปี 55 ที่มีจำนวน 40 ตัว
"ผมมีการตรวจตลาด อยู่ทุกวัน โดยเฉพาะช่วงที่วอลุ่มมากยิ่งต้องมีการตรวจสอบมากขึ้น ทำให้ผมได้เห็นพฤติกรรมการสร้างราคา โดยมาตรการเดิมที่เรามีไม่สามารถยับยั้งได้แค่วอลุ่ม แต่ไม่สามารถยับยั้งราคาได้ ซึ่งเราได้หารือกับ ก.ล.ต.อยู่ตลอด และเริ่มกังวลในหุ้นกลุ่มนี้มากขึ้น"นายภากร กล่าวทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่มี PE สูงถึง 40 เท่า มีอยู่กว่า 100 ตัว ซึ่งอยู่ใน SET100 และนอก SET100 ขณะเดียวกันในหุ้นกลุ่ม NON SET50 มีปริมาณการซื้อขายการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากมาที่ 48-50% จากปริมาณการซื้อขายทั้งหมด โดยที่ปี 55 มีการซื้อขายอยู่ในสัดส่วน 36% เท่านั้น