นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นเช้านี้จะดีดตัวขึ้นไปตามตลาดหุ้นภูมิภาค แต่อย่างไรก็ตามวันนี้มองว่าจะยังเป็นการเล่นสลับกลุ่มมีทั้งแดนบวกและแดนลบ คืออาจจะมีการปรับตัวขึ้นไปแต่สุดท้ายอาจจะกลับมาปิดตัวในแดนลบได้ เพราะช่วงนี้ตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ ผลการดำเนินงานที่ออกมาดัชนีก็ได้มีการปรับตัวขึ้นไปรับข่าวค่อนข้างมากแล้ว
ในขณะนี้มองว่าปัจจัยที่ตลาดยังไม่สามารถปรับขึ้นไปได้เป็นผลมาจากแรงขายของต่างชาติในหุ้นใหญ่ยังมีอยู่ค่อนข้างมาก จึงทำให้ดัชนีเริ่มแก่วงตัว โดยหากมีการปรับตัวขึ้นไปก็อาจจะมีแรงขายออกมา
ตลาดภูมมิภาคตั้งแต่เปิดมาส่วนใหญ่จะบวก แต่เป็นการบวกระดับกลางๆที่ 0.4-0.5 %
พร้อมให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,478-1,482 จุด แนวต้านที่ 1,495 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(12 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,018.70 จุด เพิ่มขึ้น 47.46 จุด(+0.34%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,519.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.42 จุด(+0.16%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,186.49 จุด ลดลง 5.51 จุด(-0.17%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 35.40 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.07 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.46 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.66 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.60 จุด
ตลาดหุ้นจีน, ฮ่องกง และไต้หวัน ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(12 ก.พ.)1,488.95 จุด ลดลง 0.16 จุด(-0.01%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,855.88 ล้านบาท เมื่อ 12 ก.พ.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(12 ก.พ.)ที่ 97.51 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.48 ดอลลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุดที่ 11.3 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.79/81 แข็งค่าขึ้น
- บอร์ดอิสลามแบงก์ตั้งคณะทำงานวันนี้สอบทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อ หลังพบ 3 ปมต้นต่อหนี้เสีย"ปล่อยกู้ไม่รอบคอบ-ประเมินหลักประกันสูงเกินจริง-ไม่ติดตามหนี้"เผยหนี้เสียตามเกณฑ์แบงก์ชาติพุ่งแตะ 30% ของสินเชื่อคงค้าง 1.2 แสนล้าน เอ็มดีคนใหม่ ขอคลัง 1.3 หมื่นล้านเพิ่มทุน ขณะเอสเอ็มอีแบงก์เข้าชี้แจงแผนฟื้นฟู คลังมั่นใจเดินหน้าได้ ยังไม่มีนโยบายควบรวมออมสิน
- ผู้ส่งออกระบุพิษบาทแข็งส่งผลกระทบต่อราคาข้าวไทย ห่างเวียดนามตันละ 200 ดอลลาร์สหรัฐ ฉุดส่งออกร่วงต่อเนื่อง คาดไตรมาส 2 ปริมาณส่งออกหดเหลือไม่เกิน 5 แสนตันต่อเดือน ฉุดเป้าหมายการส่งออกลดลงจาก 6.5 ล้านตัน เหลือ 6 ล้านตัน เดือนม.ค. คืนเงิน ธ.ก.ส.1.6 หมื่นล้าน ระบายรัฐต่อรัฐนิ่ง เผย สยามอินดิก้ารายเดียวเบิกข้าวจากโกดังกลาง
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 12 ก.พ. มีมติเห็นชอบวงเงินและโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ2557 โดยมีวงเงินงบรายจ่าย 2.525 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนหน้า 5.2% ส่วนประมาณการรายได้สุทธิอยู่ที่ 2.275 ล้านล้านบาท เป็นการขาดดุลงบประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ลดลง 5 หมื่นล้านบาทจากปีก่อนหน้า
- ตลาดหลักทรัพย์-ก.ล.ต.เตรียมประกาศเกณฑ์เพิ่ม หวังสกัดสร้างราคาหุ้น เหตุใช้แคช บาลานซ์ เอาอยู่แค่วอลุ่ม แต่ราคา ยังวิ่งแรง เผยตลอดเดือนม.ค. 2556 หุ้น อยู่นอกเซ็ท 50 พุ่งเทรดเกิน 50% ขณะที่ รายย่อยสัดส่วนขยับเกิน 60% ส่วนกองทุนในประเทศซื้อขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว พร้อมเตรียมแผนเปิดกระดานเทรดทีดีอาร์
- มูดี้ส์ ประเมินบาทแข็งกระทบขีดแข่งขันส่งออกไทย บวกเงินร้อนไหลเข้าก่อฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ กดดันแบงก์ชาติใช้มาตรการควบคุมเงินทุนเหมือนปี 2553 ชี้ ธปท.มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบายปีนี้ หลังคาดการณ์เงินเฟ้ออยู่ในกรอบไม่เกิน 3%
*หุ้นเด่นวันนี้
- BLAND(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"ราคาเหมาะสมอิง BV สิ้นปี 2555 ที่ 2.32 บาท หลังรายงานกำไรสุทธิ 3Q55 ที่ 722 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ 267 ล้านบาท ใน 3Q54 และเพิ่มขึ้น +65% qoq จาก 2Q55 ที่ 437 ล้านบาท ขณะที่ ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะมีการบันทึกกำไรพิเศษสูงถึง 2.7 พันล้านบาท ใน 4Q55 จากการเข้าซื้อหุ้น Impact ในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี รวมทั้งกำไรพิเศษจากการประเมินราคาที่ดินและอาคารทั้งหมดของ Impact ดังนั้นคาดว่ามูลค่าทางบัญชีจะเพิ่มขึ้นจาก 1.56 บาท ณ สิ้น 3Q55 เป็นไม่ต่ำกว่า 2.32 บาท ใน 4Q55
- INET(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"ราคาเหมาะสม 3.60 บาท คาด 4Q55 จะเริ่มพลิกเป็นกำไร เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ไตรมาส ราว 4-5 ล้านบาท จุดเริ่มต้น Turnaround จากเติบโตธุรกิจ IDC ที่เข้าสู่วงจรขาขึ้น และคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2556 ที่จะได้ประโยชน์เต็มที่จากการเกิด Technology 3G พร้อมคาดว่า จะพลิกเป็นกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท ในปี 2556 จากผลขาดทุน 35 ล้านบาท ในปี 2555 รวมทั้ง ยังมี Valuation ที่ไม่สูงมากนัก
- DCC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปรับเป้าขึ้นเป็น 60 จาก 53 บาท จากการปรับกำไรปี 2013 ขึ้น 5% เป็น 1,508 ล้านบาท (+20% Y-Y) เดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังเพิ่มช่องทางการขายผ่านร้านค้าวัสดุแบบ Modern Trade มากขึ้น รวมทั้งมีการปรับราคาขายขึ้น และผลักดันยอดขายของกระเบื้องขนาด 16"x16" ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่าขนาดอื่น ได้มากขึ้น คาดว่ากำไรใน 1Q13 จะทำ new high ที่ 390-400 ล้านบาท เพราะเป็นช่วง high season มีการปรับราคาขายขึ้น และปรับกลยุทธ์ Re-branding ให้สาขาดูทันสมัยขึ้น
- CENTEL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อเก็งกำไร"คาดกำไรโตโดดเด่นรับ high season ของธุรกิจท่องเที่ยว โดยคาดกำไรสุทธิ 321 ล้านบาทใน 4Q12 +210% Q-Q, +131% Y-Y เป็นอัตราเติบโตสูงสุดในกลุ่มโรงแรม หากเป็นไปตามคาด จะทำให้กำไรปกติทั้งปี 2012 โตก้าวกระโดด 86% Y-Y เป็น 1,159 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิน่าจะสูงกว่านี้เพราะจะมีกำไรพิเศษจากการลงทุนในโรงแรมที่หาดกะรนเพิ่มจาก 50% เป็น 84% พร้อมคงราคาเป้าหมายที่ 33 บาท
- TSC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 15.30 บาท รายงานกำไรงวด 1Q56 (ต.ค.-ธ.ค.55)ดีกว่าคาดถึง 31% มีกำไร 87 ล้านบาท ผลประกอบการปี 2556 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ และเปิดโรงงานใหม่เมื่อปลายปี 2555 ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 30—40% ขณะที่ราคาหุ้นพบว่านับตั้งแต่วันขึ้นเครื่องหมาย XD (5 ก.พ.) ปรับตัวลดลง 1.20 บาท มากกว่าเงินปันผลที่ประกาศจ่ายจำนวน 0.50 บาทต่อหุ้น เรามองว่าราคาหุ้นยังไม่สะท้อนผลกำไรที่ออกมาดีกว่าคาด
- SYMC(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"ได้ประโยชน์จากดิจิตอลทีวี ความน่าสนใจอยู่ที่ 1) ราคาหุ้นยังคง Laggard โดยปรับตัวลดลง 7.8% YTD 2) ความสามารถในการทำกำไรสูง ระดับ Net Profit Margin ใน 9M55 ราว 30.8% 3) มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จจากธุรกิจดิจิตอลทีวีสูง โดยมีจุด Cut Loss และแนวรับที่ 20.10 บาท และแนวต้าน 23.00 บาท