นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นเช้านี้มองว่าจะซึมๆ sideway ออกด้านข้าง โดยมองว่าในปัจจุบันยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามา ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการรอผลประกอบการ จะเห็นได้ว่าในส่วนของ MSCI ไม่ได้มีการปรับอะไรเพิ่ม ในส่วนของนักลงทุนต่างรอดู 2 เหตุการณ์ คือ เรื่องตัวเลขของ GDP ไตรมาส 4 ในวันที่ 18 ก.พ.นี้ และผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 20 ก.พ.
ในส่วนของตลาดภูมิภาคมองว่าจะซึมๆ
กลยุทธ์หากจะเข้ามารับซื้อเมื่ออ่อนตัวนั้นให้เลือกซื้อในกลุ่มธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และวัสดุก่อสร้าง โดยมีแนวรับ 1,511-1515 จุด แนวต้าน 1,536
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(14 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,973.39 จุด ลดลง 9.52 จุด(-0.07%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,521.38 จุด เพิ่มขึ้น 1.05 จุด(+0.07%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,198.66 จุด เพิ่มขึ้น 1.78 จุด(+0.06%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 68.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 97.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.45 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.18 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.56 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 5.00 จุด
ส่วนตลาดหุ้นจีนและไต้หวันปิดทำการในวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(14 ก.พ.)1,526.74 จุด เพิ่มขึ้น 12.63 จุด(+0.83%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 60.85 ล้านบาท เมื่อ 14 ก.พ.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(14 ก.พ.)ที่ 97.31 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.30 ดอลลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(14 ก.พ.)ที่ 10.3 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.82/84 รอผลประชุม G20-กนง.
- "ประสาร"แจงความขัดแย้งรัฐบาล ย้ำเป็น เรื่องปกติ ระบุผลขาดทุนไม่กระทบการดำเนินงาน ตราบเท่าที่ยังดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจได้ดี หากยังรักษาความเชื่อมั่น รับขาดทุน 5.3 แสนล้าน แต่รวมทุกบัญชีมีกำไร เผยมี 5 มาตรการดูแลค่าเงินบาท ยันดอกเบี้ยเป็นเพียงปัจจัยเดียวดึงเงินไหลเข้า
- นายก้องเกียรติ โอภาสวงการประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัสกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ ควรเป็นหน่วยงานเข้ามาแตะเบรกเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า เพราะเกิดฟองสบู่ในหลายธุรกิจ คือ ตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้น และอสังหาริมทรัพย์
- รัฐบาลเตรียมเพิ่มเงินลงทุนอีก 2.8 ล้านล้านบาท ในการลงทุนด้านคมนาคมขนส่ง โดยจะตั้งไว้ในงบประมาณ 7 ปี ปีละ 4 แสนล้านบาท หรือ 20% ของงบประมาณแต่ละปี เมื่อรวมกับการออก พ.ร.บ.กู้เงินมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาทรัฐจะใช้เงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานรวม 4.8 ล้านล้านบาทในระยะ 7 ปีข้างหน้า
- นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ได้เสนอการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 ให้นายกิตติรัตน์ ณระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังพิจารณาเห็นชอบแล้ว และคาดว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณาเห็นชอบในเร็วนี้ เพื่อดำเนินการแปลงกองทุนวายุภักษ์ 1 เป็นกองทุนวายุภักษ์ 2 ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
- "ก.ล.ต."เล็งให้ตัวแทนขายเปิดเผยผลงานกองทุนให้ลูกค้าครบถ้วน แม้จะขายเฉพาะกองทุนของตัวเองก็ตาม ด้าน "ตลท." ชูลงทุนกองทุนผ่านโบรกเกอร์สะดวกมีโพรดักท์ให้เลือกหลากหลายกว่า "ดร.ก้องเกียรติ" รับกองทุนตราสารหนี้โต เหตุสืบเนื่องจากวัฒนธรรมลงทุนผ่านแบงก์ของคนไทย แนะสร้างกองทุนหุ้นให้เติบโตขึ้นตามมา
*หุ้นเด่นวันนี้
- SPALI(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 22.80 บาท มีแนวโน้มที่จะประกาศงบไตรมาสที่ 4 ออกมาโดดเด่น โดยที่เราประมาณการว่ากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 4 จะทำสถิติสูงสุดอีกครั้งราว 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% QoQ และ 105% YoY ขณะที่ปัจจุบันมีงานใน 3.1 หมื่นล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้เข้ามาราว 7.8 พันล้านบาทในปี 2556 หรือคิดเป็น 55% ของประมาณการรายได้ทั้งปี เราประเมินกำไรสุทธิในปี 2556 ไว้ที่ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% YoY
- BEC(เกียรตินาคิน)ประกาศงบ 4Q55 วันจันทร์หน้า(18 ก.พ.)คาดกำไรเติบโตแข็งแกร่งกว่า 74% YoY ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องคาดกำไรปี 2556 เติบโต 21% จากการปรับขึ้นค่าโฆษณาใน 30 รายการตั้งแต่ 5—50% ตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้ BEC ยังเป็น 1 ในผู้ได้ประโยชน์จากการเกิดดิจิตอลทีวีทำให้มีโอกาสทำช่องรายการโทรทัศน์เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีความเสี่ยงบ้างก็ตามจากการแข่งขันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ช่วงสั้นราคาหุ้นอ่อนลงต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมเป็นโอกาสในการเข้า “ซื้อเก็งกำไร" ในเชิงกลยุทธ์ โดยมีจุด Cut Loss และแนวรับที่ 70.00 บาท และแนวต้าน 75.00 บาท
- SF(บัวหลวง)ให้แนวต้าน 11.5 บ. แนวรับ 9.90 บ. รายงานกำไรสุทธิปี 2012 ที่ 1.4 พันล้านบาท +97.6% y-y (EPS2012 1.2x; PE 8.4x)ดีกว่าคาดแม้ตัดรายการพิเศษเมกาบางนาออก และประกาศจ่ายปันผลพิเศษเป็นหุ้น 8 หุ้นเดิม:1 หุ้นใหม่ และเงินสดอีก 0.01389 บ.
- LPN(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 26 บาท รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/55 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.2 พันล้านบาท เพิ่มจากไตรมาส 4/54 ที่กำไรเพียง 62 ล้านบาท และเติบโต 128% QoQ ผลประกอบการที่น่าประทับใจในไตรมาส 4/55 มีปัจจัยหนุนจากรายได้ทำสิติใหม่สูงสุดที่ 6.8 พันล้านบาท จึงประมาณการรายได้คอนโดไตรมาส 1/56 จะเติบโต 10-20% YoY และกำไรดีสูงสุดของปีไตรมาส 3/56 พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2556 4% และปี 2557 7% เพื่อสะท้อนสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นเป็น 32.2%