ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 1.3% ปิดที่ 288.57 จุด หลังจากที่ร่วงลง 1.5% เมื่อวันพฤหัสบดี สำหรับตลอดสัปดาห์ดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 4 สัปดาห์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 44.16 จุด หรือ 0.70% ปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,335.70 จุด ตลอดสัปดาห์ดัชนีขยับขึ้น 0.1% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสพุ่งขึ้น 81.48 จุด หรือ 2.25% ปิดที่ 3,706.28 จุด และเพิ่มขึ้น 1.3% ตลอดทั้งสัปดาห์ ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดบวก 78.34 จุด หรือ 1.03% ที่ระดับ 7,661.91 และตลอดสัปดาห์ ดัชนีพุ่งขึ้น 0.9%
สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 107.4 จาก 104.3 ในเดือนม.ค. ข้อมูลจาก Ifo นับเป็นสัญญาณบวกล่าสุดเกี่ยวกับเศรษฐกิจของเยอรมนีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเพียงหนึ่งวัน ผลสำรวจของมาร์กิตแสดงให้เห็นว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นภาคการผลิตของเยอรมนีในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นแตะ 50.1 จาก 49.8 ในเดือนม.ค. โดยดัชนียืนเหนือระดับ 50 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของเยอรมนีในเดือนก.พ.มีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW ได้รายงานในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนก.พ. 2556 พุ่งขึ้นเกินคาดแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2553 อันเนื่องมาจากมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรปกำลังฟื้นตัว
ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 48.2 จาก 31.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ดัชนีจะปรับตัวขึ้นแตะที่ระดับ 35 ในเดือนก.พ.
ข้อมูลที่เป็นบวกของเยอรมนีซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่สุดในยูโรโซนได้ช่วยให้ดัชนีหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้น หลังจากที่เคลื่อนตัวผันผวนในช่วงสัปดาห์ เพราะนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งของอิตาลี ซึ่งคาดว่าจะทราบผลหลังปิดหีบในวันจันทร์นี้ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดภายหลังจากที่มีการเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุด
ตลาดวิตกว่ารัฐบาลใหม่ของอิตาลีอาจจะดำเนินนโยบายที่ส่งผลให้การเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจและการคลังของประเทศต้องหยุดชะงัก โดยนายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตัวเก็งอันดับต้นๆว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ชูนโยบายหาเสียงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ทั้งที่เป็นเงื่อนไขที่อิตาลีต้องปฏฺบัติตามที่ได้ให้คำมั่นกับอียูเพื่อแลกกับการขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยในฝรั่งเศส หุ้นโซซิเอเต เจเนราล บวก 1.8% และบีเอ็นพี พาริบาส์ พุ่ง 2.7% ด้านดอยช์แบงก์ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 1.9%
ขณะที่ในตลาดลอนดอน หุ้นเจ เซนส์บิวรี บวก 2.1% หลังซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มอันดับหุ้น
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลง นำโดยบีเอชพี บิลลิตัน, ริโอ ทินโต และแองโกล อเมริกัน ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์จะลดลง หลังจีนเตรียมที่จะใช้มาตรการควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์