ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดพุ่งแรง จากกระแสคาดเฟดเดินหน้ากระตุ้นศก., ขานรับจีนคงเป้าหมายจีดีพี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 5, 2013 22:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับจีนคงเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับกระแสคาดการณ์ของนักลงทุนที่ว่า ธนาคารกลางหลายประเทศจะยังคงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์บวก 94 จุด หรือ 0.7% แตะที่ 14,222 จุด พุ่งแซงระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14,164.53 จุด รวมถึงระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 14,198.10 จุด ซึ่งทำไว้เมื่อเดือนต.ค.2550

ขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 12 จุด หรือ 0.8% แตะที่ 1,537 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 31 จุด หรือ 0.9% แตะที่ 3,212 จุด

วานนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจากมุมมองที่เป็นบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเจเน็ต เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐระบุว่า เฟดควรดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรเดือนละ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อไป ขณะเดียวกันก็จัดการรับมือกับต้นทุนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าว

คำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดว่า เฟดจะยังไม่ยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเร็วๆนี้ ขณะที่นายฮารุฮิโกะ โนดะ ว่าที่ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า เขาจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อขจัดภาวะเงินฝืดที่ญี่ปุ่นเผชิญมาอย่างยาวนานถึง 15 ปี ด้านธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะประชุมกันในวันพฤหัสบดีนี้ ก็ได้รับการคาดหมายว่าอาจจะส่งสัญญาณถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค หลังจากข้อมูลที่มีการเปิดเผยในสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่า ภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัว ขณะอัตราว่างงานก็ไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.พ.

ส่วนในวันนี้ รายงานการดำเนินงานของรัฐบาลจีนซึ่งเตรียมนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเหวิน จินเป่า ในการประชุมสภานิติบัญญัติประจำปีระบุว่า จีนยังคงเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไว้ที่ราว 7.5% ในปีนี้

เป้าหมายการขยายตัวดังกล่าวเป็นระดับเดียวกันกับในปี 2555 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้มีความเป็นไปได้สำหรับการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ส่งเสริมการสร้างงานและปรับปรุงความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันวันนี้ นักลงทุนจับตารายงานดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.ของสหรัฐว่าจะออกมาในทิศทางเดียวกับดัชนีภาคการผลิตหรือไม่ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.2 ในเดือนก.พ. จากระดับ 53.1 ในเดือนม.ค. นับเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัว

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) มีกำหนดเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.ในเวลา 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย วันนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ