(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ยังมีลุ้นขึ้น สภาพคล่องมากจะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาด

ขณะเดียวกันเช้านี้ตลาดเพื่อนบ้านก็มีการแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากยังไม่มีแรงส่งใหม่เข้ามา คือยังไม่มีปัจจัยเพิ่มเติม ทั้งนี้ สิ่งที่จะต้องติดตามยังเป็นเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เวลานี้สภาพคล่องที่มีอยู่มากจึงเป็นตัวขับเคลื่อนให้กับตลาดฯในช่วงนี้ได้

พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด แนวต้าน 1,565 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(6 มี.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,296.24 จุด เพิ่มขึ้น 42.47 จุด(+0.30%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,541.46 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด(+0.11%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,222.36 จุด ลดลง 1.77 จุด(-0.05%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 104.98 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 6.74 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 48.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 2.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 0.08 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.65 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.81 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.20 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(6 มี.ค.)1,559.35 จุด เพิ่มขึ้น 10.04 จุด (+0.65%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,109.66 ล้านบาท เมื่อ 6 มี.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(6 มี.ค.)ที่ 90.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.39 ดอลลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(6 มี.ค.) ปิดที่ 10.2 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.79/81 อ่อนค่าจากแรงซื้อบอนด์รัฐบาลไทย
• บอร์ดกสท.เตรียมเคาะราคาประมูลทีวีดิจิทัลช่องธุรกิจ 24 ช่อง จุฬาฯเสนอ ราคาช่อง HD 1,000-3,000 ล้านบาท ช่อง SD เคาะเริ่มต้นไม่เกิน 500 ล้านบาท รวมได้ไม่ต่ำกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายแจกคูปองซื้อกล่องหรือเครื่องรับทีวีดิจิทัล ส่วนราคาค่าโครงข่าย กำหนดไว้ที่ 40-60 ล้านบาทต่อปีต่อช่อง
• ถกพม่าวันนี้ ตั้งโครง"เอสพีวี" ลงทุนทวาย เคาะรูปแบบลงทุน 8 โครงการเร่งด่วน, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานระหว่างไทยเมียนมาร์ เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง(เจซีซี) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมเจซีซีไทยและเมียนมาร์ วันที่ 7 มี.ค. จะหารือกรอบการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ(เอสพีวี) ลงทุนโครงการทวาย
• นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงมาตรการลดใช้พลังงานว่า จากการร่วมมือกันประหยัดไฟฟ้าครั้งนี้ทำให้ปริมาณสำรองไฟฟ้าเพิ่มเป็น 1,674 เมกะวัตต์ อยู่ในระดับที่ปลอดภัย โดยเฉพาะวันที่ 5 เม.ย. ที่คาดว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีก) และอาจไม่มีผลกระทบให้ค่าไฟฟ้าฝันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) รอบเดือนพ.ค.-ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้นอย่างที่คาดการณ์ไว้
• ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยปี 2555 ยอดขาย และกำไรบริษัทจดทะเบียนทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นครั้งแรกรายได้รวม ทะลุ 10 ล้านล้านบาท "ปตท.-ปตท.สผ.- ไทยพาณิชย์" ครองแชมป์กำไรสูงสุด ผู้บริหารคาดปีนี้ยอดไอพีโอทะลุเป้า แนวโน้มมาร์เก็ตแคป บจ.เข้าใหม่ทะลุ 1.4 แสนล้าน หลังจาก 17 บริษัทยื่นไฟลิ่งต่อคิดเข้าตลาด
• คลังสั่งจำกัดสินเชื่อใหม่เอสเอ็มอีแบงก์ ไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อราย หลังจากพบว่าระยะ 3 ปีปล่อยสินเชื่อรายใหญ่เฉลี่ย 800-900 ล้านบาทต่อราย ส่งผลให้หนี้เสียพุ่ง 3.2 หมื่นล้านบาท พร้อมเจาะลึกสาเหตุหนี้เสีย ขณะที่ เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ และเตรียมใส่เงินเพิ่มทุนให้ทันที 555 ล้านบาท ตั้งเป้ากำไรปีนี้ 100 ล้านบาท โดยที่ระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 7-8% จากปัจจุบันอยู่ในระดับ 1%

*หุ้นเด่นวันนี้

• GJS-W3(ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.จี เจ สตีล(GJS))เข้าเทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 3,674,429,663 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.15 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 7 ปีนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งออกวันที่ 8 ก.พ.2556 กำหนดใช้สิทธิครั้งแรก 28 มิ.ย. 2556 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 7 ก.พ. 2563
• STEC(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"ผลการประมูลโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ปรากฎว่า STEC กลายเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 1.29 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าผู้เข้าประมูลอีก 3 ราย (PLE SYNTEC ITD) หากคุณสมบัติอื่นๆผ่านตามที่กำหนด จะทำให้งานในมือของ STEC แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่มองศักยภาพการเติบโตของ STEC ยังคงทำได้ดีจากงานในมือที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยผลประกอบการมีโอกาสขยายตัวจากกำไรสุทธิที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 35% ต่อปี (ช่วงปี 2553 — 2557)
• MFEC (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 7.50 บาท ปีนี้คาดกำไรสุทธิของบริษัทที่ 210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY และยังเห็นโอกาสได้งานใหม่ต่อยอด Backlog จากโครงการภาครัฐที่ทยอยเปิดประมูลมากขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะโครงการกระทรวง ICT เช่น โครงการ “Smart Network" มูลค่าราว 30,000 ล้านบาท และโครงการรัฐอื่นๆ ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ที่มีบทบาทต่อบริษัทมากขึ้น และจะเป็น Upside ส่วนเพิ่มให้กับมูลค่าเหมาะสมในอนาคต
• DCON(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปรับเป้าปีนี้ขึ้นเป็น 15 จาก 10.60 บาท โดยปรับประมาณการกำไรปี 2013-14 ขึ้นและปรับ PE ขึ้นเป็น 17 เท่าจากเดิม 13 เท่า สำหรับกำไรปีนี้คาดโต 23% และยิ่งโตสูง 37% ในปีหน้าจากกำลังการผลิตที่เพิ่ม 24% กลางปี 2014 และได้ประโยชน์เต็มปีจากกำลังการผลิตที่เพิ่ม 24% ใน 3Q13 นอกจากนี้ โครงการบ้านเดี่ยวที่โอนในปีก่อน 11 หลัง จะโอนปีนี้ 30 หลัง และปีหน้า 50 หลัง และยังมีคอนโด Dzio จะเริ่มขาย เม.ย. นี้ และรับรู้เป็นรายได้ 4Q14 ซึ่งจะทำให้เป้าหมายปี 2014 ขยับขึ้นเป็น 20 บาท
• CENTEL(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 44 เชื่อบริษัทจะรายงานรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักปี 2556 ทำสถิติสูงสุดใหม่ และรายงานกำไรหลักปี 2556 ทำสถิติใหม่ โดยคาดว่ารายได้เฉลี่ยต่อห้องพักปี 2556 จะโตก้าวกระโดด 18-19% YoY หนุนโดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในระดับสูงที่ 70-71% และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยเติบโต 15-16% ด้านธุรกิจอาหารบริการด่วน (QSR) สามารถการันตีแนวโน้มการเติบโตแบบปกติได้ในระยะยาว อ้างอิงจากอัตราการเติบโตของยอดขาย 3-5% ต่อปี และการขยายสาขาเพิ่ม
• BTS(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 9.10 บาท เชื่อราคาหุ้นมีแนวโน้มตอบรับเชิงบวก จากความคืบหน้าในการออกขายกองทุน Infrastructure Fund หรือ BTSGIF โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อช่วงวันที่ 29 มี.ค. — 4 เม.ย. 2556 และเข้าซื้อขายในตลท.วันที่ 19 เม.ย.2556 โดยคาดว่าหลัง BTS ได้เงินจากการออกขายกองทุน BTSGIF จะส่งผลให้มีเงินสดส่วนเกิน และสามารถจ่ายเงินปันผลพิเศษได้ราว 0.80 — 1.00 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 9.4 — 11.7% พร้อมคาดว่ากำไรปกติปี 2555/2556 จะเติบโตสูงถึง +108.6% yoy เป็น 1,986 ล้านบาท