บลจ.กรุงไทยออกกองตราสารหนี้ 3 เดือนและ 6 เดือน ผลตอบแทน 2.75-3.00%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 12, 2013 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 76(KTSUPB76)เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 19 มี.ค.56 อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 7,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝากประจำ Union National Bank เงินฝากประจำ The Commercial Bank of Qatar ECP ค้ำประกันโดย SBER Bank และ MTN ออกโดย Banco BTG Pactual S.A.ในสัดส่วน72% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน /บริษัทเอกชนในประเทศ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 3(KTSIV3M3)ประเภท Roll Over เสนอขายถึงวันที่ 15 มี.ค.56 อายุโครงการ 3 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝาก/บัตรเงินฝาก/ตั๋วแลกเงิน ธนาคารออมสิน ธนาคาร RHB และธนาคาร TBANK ในสัดส่วน 53% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินของภาคเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.75%ต่อปี

สำหรับภาวะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ ตราสารระยะกลางถึงยาวปรับเพิ่มขึ้น 1-2 basis points ขณะที่ตราสารระยะสั้นรุ่นไม่เกิน 1 ปี ปรับลดลง -1 basis points เนื่องจากนักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น ส่วนตลาดตราสารหนี้ในสหรัฐอเมริกา ปรับเพิ่มขึ้นหลังประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่มีทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ว่าแผนการปรับลดงบประมาณรายจ่ายอัตโนมัติจะเริ่มมีผลบังคับใช้หลังวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่ตลาดการเงินค่อนข้างจะให้น้ำหนักน้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ โดยส่วนหนึ่งความเชื่อว่าการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ ตลาดแรงงาน และตลาดอสังหาริมทรัพย์จะช่วยชดเชยผลกระทบจากการหดตัวของภาครัฐ

นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก รวมถึงประเทศในกลุ่มประชาคมยุโรปได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม สืบเนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ส่วนตลาดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ค่อนข้างจะมีเสถียรภาพในช่วง 29.70 — 29.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักของประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้ามีแนวโน้มอ่อนค่าจากความต้องการซื้อดอลลาร์ฯ ในอนาคตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าดอลล่าร์พรีเมี่ยมระหว่างสกุลบาทและดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวกว้างขึ้น และเป็นผลดีต่อการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากทำให้ได้รับอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาท จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนเพื่อล็อคผลตอบแทนในกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ในช่วงเวลานี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ