(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าขึ้นต่อแนวเดียวกับภูมิภาค-ปัจจัยในปท.หนุน-Flow เข้าต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 27, 2013 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้มองว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นไปต่อได้ ด้วย 3 ปัจจัยหลักคือ 1.การเปิดกองทุน Trigger fund ที่ค่อยๆทยอยเปิดออกมา 2.การทำ window dressing และ 3.เรื่องของ Fund flow ที่กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้งหนึ่ง ทั้งในตลาดหุ้น และในตลาด TFEX

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นในวันนี้มองว่าอาจจะไม่ได้ปรับขึ้นมากเมื่อเทียบกับสองวันที่ผ่านมา โดยในสองวันที่ผ่านหุ้น บวก 40 จุด และวันถัดมาบวก 20 จุด วันนี้จะเป็นการบวก แต่มองว่าจะไม่บวกมากกว่า 20 จุด

ในส่วนตลาดภูมิภาค ปรับตัวขึ้นโดยส่วนใหญ่

พร้อมให้แนวรับ 1,535-1,537 จุด แนวต้าน 1,555 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(26 มี.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,559.65 จุด เพิ่มขึ้น 111.90 จุด(+0.77%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,563.77 จุด เพิ่มขึ้น 12.08 จุด(+0.78%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,252.48 จุด เพิ่มขึ้น 17.18 จุด(+0.53%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.96 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 74.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.21 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.68 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.70 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.55 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.00 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(26 มี.ค.)ที่ 1,544.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.08 จุด(+1.32%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 661.29 ล้านบาท เมื่อ 26 มี.ค.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 96.34 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(26 มี.ค.)ที่ 7.1 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 29.33/35 คาดวันนี้แกว่งแคบ จับตาทุนไหลเข้า
  • ตลท.กังวลหุ้นเก็งกำไร สั่งโบรกเกอร์ส่งข้อมูลบัญชีมาร์จิน กรณีดัชนีเคลื่อนไหวเกิน 1% พบผิดปกติ ส่ง ก.ล.ต.สอบทันที ขณะที่ผลประชุมร่วมสมาคมโบรกเกอร์เพิ่มหลักประกันเงินสดเป็น 20% มีผล 2 พ.ค. เตรียมรับตลาดผันผวน
  • "แบงก์ชาติ"รับอสังหาฯต่างจังหวัดร้อนแรง เตรียมมาตรการสกัดฟองสบู่แล้ว ด้านประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย แนะรัฐเพิ่มเงินดาวน์บ้านหลังที่สองเป็น 30% ชะลอความร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อป้องกันฟองสบู่ในอนาคต รวมถึงบ้าน-คอนโดหลังแรก ควรปรับเงินดาวน์เป็น 20% เผยปีนี้การขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังขยายตัว 15-20%
  • กระทรวงพาณิชย์รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ว่า มีความเป็นห่วงการส่งออกในปีนี้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะขยายตัว 8-9% คิดเป็นมูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อาจโตไม่ถึงเป้าหมาย เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้การกำหนดราคาสินค้ายาก และแพงกว่าประเทศคู่แข่ง
  • กรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่ายอดการชดเชยสะสมราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) สิ้นเดือน ก.พ.เพิ่มเป็น 132,856 ล้านบาท เทียบกับสิ้นปี 2555 ที่มียอดชดเชยประมาณ 1 แสนล้านบาท และคาดว่ายอดชดเชยจะยังเพิ่มขึ้นตามการนำเข้าที่คาดว่าเฉลี่ยเดือนละ 1.7-1.8 แสนตัน เพิ่มจากปีที่แล้วที่นำเข้าเฉลี่ยเดือนละ 1.44 แสนตัน โดยเดือนมี.ค. อนุญาตให้ ปตท. นำเข้า 1.32 แสนตัน ขณะที่เดือน เม.ย.-พ.ค. จะเปิดโรงแยกก๊าซที่ 1 และ 6 คาดว่าจะมีการนำเข้าสูงขึ้นเป็นเดือนละ 1.7-1.8 แสนตัน
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการเร่งรัดก่อสร้างขยาย 4 ช่องจราจร และเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง 45 โครงการ วงเงินลงทุนกว่า 8 หมื่นล้านบาทได้ระบุอยู่ใน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่จะเสนอสภาวันที่ 28 มี.ค.นี้ คาดว่ากฎหมายผ่านสภากรมทางหลวง (ทล.) จะสามารถออกแบบว่าจ้างดำเนินการก่อสร้างและแล้วเสร็จเปิดใช้ได้ภายในปี 2559

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SEAFCO(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 11.70 บาท แผนการลงทุนก่อสร้างของภาครัฐ จะเอื้อประโยชน์ให้กับ SEAFCO หลังจากได้รับการยอมรับที่ดีจากผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งจาก CK และ STEC โดยที่คาดว่าปี 2556 จะมีโอกาสรับงานได้ระหว่าง 2 -2.3 พันล้านบาท เติบโตราว 10-20% และคาดว่าจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นมาอยู่ที่ 18% เราประเมินกำไรสุทธิปี 2556 ที่ 167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY ขณะที่จุดเด่นของบริษัทอยู่ที่ ROE ที่จะสูงถึง 23-24%ในปี 2556-2557 และมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 1.1 เท่า
  • LIVE(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 1.20 บาท ราคาหุ้นอ่อนตัวจากระดับสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 1.00 บาท มาอยู่ที่ราว 0.80 บาท เป็นโอกาสเข้าลงทุน โดยยังคงคาดปี 2556 LIVE จะมีกำไรเติบโตกว่า 23 เท่าตัวจากปีก่อนมาอยู่ที่ 121 ล้านบาท หลังจากปรับโครงสร้างการดำเนินงานเป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้ LIVE ยังมีโอกาสเติบโตจากแผนการลงทุนโครงการใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรในอนาคต
  • BTS(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 12.30 บาท ราคาหุ้นใน Momentum เชิงบวก จากการเปิดขายกองทุน BTSGIF ระหว่างวันที่ 29 มี.ค.—4 เม.ย. มูลค่ากองทุน 6—6.25 หมื่นล้านบาท โดยกำหนดช่วงราคา 10.40—10.80 บาท ซึ่งจะประกาศราคาเสนอขายสุดท้ายในวันที่ 5 เม.ย. และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลท.ได้ในวันที่ 19 เม.ย. พร้อมประเมินกองทุน BTSGIF จะได้รับการตอบรับในเกณฑ์ดี และคาดว่า BTS จะสามารถจ่ายเงินปันผลพิเศษได้ราว 0.80—1.00 บาท หลังเสร็จสิ้นการขายกองทุน และคิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 8.5—10.7%
  • MFEC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 8.20 บาท เป็น 1 ในหุ้น ที่ได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท เนื่องจากมีต้นทุนสินค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ — โทรคมนาคม ในรูปสกุลเงิน USD ขณะที่รายได้อยู่ในรูปสกุลเงินบาท ดังนั้น จึงส่งผลให้ส่วนต่างอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มขยับขึ้น และมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2556 ที่จะเริ่มต้นเข้าสู่ขาขึ้นของธุรกิจ โดยมี Backlog สิ้นปี 2555 สูงถึง 2,940 ล้านบาท ราคาหุ้นปัจจุบัน ยังมี Valuation ที่ไม่สูงมากนัก
  • CPALL(เคทีบี)"ซื้อ"เป้า 55.36 บาท เห็นว่า ราคาหุ้น CPALL ถูกกดดันแบบไร้เหตุผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจากแนวโน้มเติบโตของกำไรสุทธิที่ดีต่อเนื่องในปี 2556 ผนวกกับฐานะการเงินแข็งแกร่ง
  • PTTEP และ PTT (เคทีบี)"ซื้อ"ราคาหุ้นควรปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกช่วงนี้ หลังอยู่ในภาวะ Underperform มาเป็นเวลานาน พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 204 และ 420 บาท ตามลำดับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ