(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าคาด Sideway ในกรอบ รอผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น-กนง.

ส่วนปัจจัยภายในประเทศในสัปดาห์นี้มองว่านักลงทุนอยู่ระหว่าง รอมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันพุธเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ว่าจะมีบทสรุปอย่าไร

พร้อมให้กรอบแกว่งไว้ที่ แนวรับ 1,540 และแนวต้านที่ 1,570 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คปิดทำการเมื่อ 29 มี.ค. เนื่องในวัน Good Friday
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 26.57 จุด, -0.21% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.05 จุด, +0.25% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.64 จุด, +0.20% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.27 จุด, +0.16% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.25 จุด, +0.01%

ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดทำการเนื่องในเทศกาลอีสเตอร์

• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(29 มี.ค.)ที่ 1,561.06 จุด เพิ่มขึ้น 16.49 จุด(+1.07%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 726.57 ล้านบาท เมื่อ 29 มี.ค.56
• ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อ 29 มี.ค.เนื่องในวัน Good Friday
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(29 มี.ค.)ที่ 6.9 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.28/30 อ่อนค่าตามยูโร มองกรอบ 29.27/37
• สศค.มั่นใจเศรษฐกิจโตจากโครงการลงทุน 2 ล้านล้าน หนุนรายได้เพิ่ม ไม่กังวลชำระ เตรียมเสนอปรับโครงสร้างภาษีหารายได้ จ่อขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ระบุเพิ่ม 1% รายได้เพิ่ม ปีละ 5 หมื่นล้าน ขณะเอกชนเตือน กระทบผู้บริโภคซื้อสินค้าแพง
• นักวิเคราะห์ คาดกนง.ประชุม 3 เม.ย. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% เหตุเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี-แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน และค่าเงินบาทเริ่มนิ่ง ขณะแรงกดดันทางการเมืองลดลง
• แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกิตติรัตน์ ณระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้ลงนามคำสั่งอนุมัติให้กรมบัญชีกลางสามารถนำเงินคงคลังจำนวน 3.1 หมื่นล้านบาทเพื่อนำมาจ่ายคืนภาษีให้กับผู้มีสิทธิได้เงินคืนจากโครงการรถคันแรกจนถึงสิ้นสุดปีงบประมาณ 2556 แล้ว
• กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เดินหน้าเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) โดยจะมีการประชุมนัดแรกในเดือน พ.ค.นี้ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยหัวหน้าทีมเจรจาทั้ง 14 ชุดที่จัดตั้งขึ้นตามมติของคณะกรรมการเจรจาเอฟทีเอ ไทย-อียู มีนายโอฬาร ไชยประวัติ เป็นประธาน กำลังประชุมหารือเพื่อกำหนดท่าทีในการเจรจาร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อสรุปก่อนเดินทางไปเจรจากับอียู
• ก.ล.ต.ตรวจเข้มมาร์เก็ตติ้ง-พอร์ตโบรกเกอร์ หวังป้องกันการซื้อขาย ไม่เป็นธรรมตั้งแต่ต้นทาง ชี้การส่งข้อมูลซื้อขายผิดปกติไม่ได้แตกต่างจากอดีต ตลาดหลักทรัพย์ดูข้อมูลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว เผยช่วง 3 เดือนนับจากต้นปีนี้ลงโทษผู้ทำผิดแล้ว 44 กรณี
• สำรวจพบหุ้นพีอีเรโชสูงเกิน 40 เท่า เดือนมี.ค.ปีนี้ยังอยู่ที่ 64 ตัว เกือบครึ่งค่าพีอี เรโชเกิน 100 เท่า แม้ตลาดจะออกมาตรการ สกัดแรงเก็งกำไร ทั้งขยายเวลาซื้อขาย บัญชีเงินสดกับเพิ่มวงเงินหลักประกัน ด้านโบรกเกอร์ห่วงเดือนเม.ย การเมืองในประเทศ กับปัญหายุโรปคลุมเครือแนะเกาะติด สถานการณ์
• กรมสรรพสามิตแนะรัฐบาลลดการอุดหนุนก๊าซธรรมชาติ หวั่นระยะยาวบิดเบือนกลไกราคาพลังงาน ระบุหากเพิ่มการจัดเก็บภาษีดีเซล 1 บาทจะทำให้รายได้รัฐเพิ่มปีละ 2 หมื่นล้าน พร้อมหาแนวทางขยายฐานภาษีไปยังสินค้าฟุ่มเฟือย ทำลายสิ่งแวดล้อมและสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้นหวังสร้างมาตรฐานเดียวรองรับนักลงทุนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
• จบไตรมาส 1/56 หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.74% จาก3 เดือนก่อน มาร์เกตแคปยังอยู่ที่ 13 ล้านล้าน สถาบันเข้าเก็บหุ้นมากสุดขณะที่ต่างชาติยอดซื้อสุทธิเหลือ 3.8 พันล้านบาท "เอเซียพลัส" เชื่อ Fund Flow มีแนวโน้มไหลออกจากภูมิภาค แม้คาดผลประชุม กนง. 3 เมษายนยังคงอัตราดอกเบี้ย โดยรวมคาดระยะสั้นดัชนียังไปต่อ แต่สัญญาณเทขายมีให้เห็นอยู่ตลอด อีกทั้งสถานการณ์ของสโลวาเกีย ไม่น่าไว้วางใจ

*หุ้นเด่นวันนี้

• BBL(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 260 บาท หลัง พรบ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทได้ผ่านความเห็นชอบของสภาฯมองว่าการเดินหน้าในโครงการลงทุนขนาดใหญ่จะทำให้ความต้องการสินเชื่อในระบบเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อ BBL มากที่สุดในกลุ่มธนาคาร เนื่องจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลจะทำให้สินเชื่อทั้งระบบจะเปลี่ยนมาเน้นธุรกรรมกับบริษัทขนาดใหญ่แทนการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้ารายย่อย ในขณะที่ BBL มีสภาพคล่องมากที่สุดและมีเงินทุนใหญ่ที่สุดทำให้สามารถรองรับการขยายตัวของสินเชื่อได้รวดเร็ว
• INET (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 4.50 บาท แนวโน้มการเติบโตยังเป็นขาขึ้นตามการเติบโตของตลาด IDC ครบวงจร และ Cloud Service ทำให้คาดกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ยต่อปี 22% ขณะที่ ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ทั้งปลอดหนี้และมีสภาพคล่องสูง โดยคาดว่าบริษัทจะกลับมาจ่ายเงินปันผลปี 2557 ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี 3%
• QH(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น"เชื่อราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มเคลื่อนไหว Outperform ตลาดได้ในสัปดาห์นี้ จากแรงเก็งกำไรผลการประชุม กนง.ในวันพุธนี้คาดลดดอกเบี้ยเป็นบวกในแง่จิตวิทยาต่อกลุ่มที่อยู่อาศัย และ QH จะขึ้น XD ปันผลปี 55 หุ้นละ 0.12 บาท 24 เม.ย. คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 2.7%
• TASCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 90 บาท รับประโยชน์โดยตรงงบสร้างถนนสูงถึง 2.75 แสนล้านบาทใน 7 ปีข้างหน้า ผลักดันความต้องการใช้ยางมะตอยในประเทศโตต่อเนื่อง พร้อมคาดกำไรปกติปี 56 โตสูงถึง +58.5% yoy เป็น 1,037 ล้านบาท และราคาหุ้นมี Valuation ที่ค่อนข้างถูก
• THAI(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 34 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q13 มีแนวโน้มโดดเด่น 6-7 พันล้านบาท สูงขึ้นมากทั้ง Q-Q และ Y-Y ที่มีกำไรเฉลี่ยไตรมาสละ 2-3 พันล้านบาท โดยมาจากกำไรจากการดำเนินงานปกติ 3-4 พันล้านบาท และกำไร Fx ถึง 3 พันล้านบาทจากบาทแข็งค่า คาด Cabin factor เกือบ 80% ดีกว่า 1Q12 ที่ 78.2% และ 4Q12 ที่ 76.7%