สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิลดลง 131.59 จุด หรือ 1.08% ปิดที่ 12,003.43 จุด
โบรกเกอร์กล่าวว่า ดัชนีนิกเกอิร่วงลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 12,000 จุดในช่วงสั้นๆ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบราว 1 เดือน หลังจากสหรัฐและจีนเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอเกินคาด ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวชะลอลงผิดคาดแตะ 51.3 ในเดือนมี.ค. จาก 54.2 ในเดือนก.พ. โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐจะมีการขยายตัวใกล้เคียงกับในเดือนก.พ.
ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนขยายตัวน้อยกว่าคาดการณ์ แม้ดัชนีเคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 เป็นเวลาติดต่อกัน 6 เดือนก็ตาม โดยสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 50.9 จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 50.1
หุ้นกลุ่มส่งออกร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวเหนือระดับ 92 เยนเพียงเล็กน้อย และยูโรร่วงลงต่ำกว่าระดับ 119 เยน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยหุ้นโตโยต้า มอเตอร์ ร่วงลง 3.1% หุ้นฮอนด้า ปรับลง 2.6%
ส่วนหุ้นแคนนอน ร่วงลง 3.4% และหุ้นโตเกียว อิเล็กตรอน ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพ ดิ่งลง 3.7%