HOTPOT เชื่อ Q2/56 ดีกว่า Q1/56ชูกลยุทธ์เด็ดการตลาดสู้บวกขยายสาขาเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 16, 2013 13:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวสกุณา บ่ายเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ฮอท พอท (HOTPOT) คาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/56 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/56 เนื่องจากในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. เป็นช่วงเทศกาลมีวันหยุดยาวและเป็นช่วงปิดเทอมส่งผลดีต่อร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า

พร้อมกันนี้ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการดำเนินกิจกรรมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดทำภาพยนตร์โฆษณาเผยแพร่ผ่านสื่อโทรทัศน์ซึ่งเป็นการส่งเสริมการตลาด เพื่อสร้างการเป็นที่รู้จัก และจดจำในกลุ่มผู้บริโภคของ HOTPOT และมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ร้านสาขาเองอีกด้วย ซึ่งบริษัทฯ สามารถควบคุมงบลงทุนด้านการตลาดได้ดีจากการเลือกใช้สื่อที่ดีเป็นประโยชน์และตรงกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการขยายสาขาในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า อย่างต่อเนื่อง

ณ สิ้นไตรมาส 1/56 ฮอท พอท และไดโดมอน มีสาขารวม 139 สาขา โดยเป็นการเปิดสาขาใหม่ และสาขาที่ปิดปรับปรุงจำนวน 7 สาขา และปิดสาขาที่ผลประกอบการไม่ดี หมดสัญญา จำนวน 6 สาขา

สำหรับแผนการขยายสาขาในปี 56 ตั้งเป้าขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยการร่วมเป็นพันธมิตรกับห้างโมเดิร์นเทรดระดับผู้นำด้านค้าปลีกสินค้าที่เกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัยระดับประเทศในการ เปิดสาขาของบริษัทฯ ทั้ง ฮอท พอท และไดโดมอน อย่างต่อเนื่องรวมทั้งมีแผนเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าทั่วประเทศในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ซึ่งการลงทุนต่อสาขาโดยปกติ จะใช้เงินลงทุนราว 7-8 ล้านบาทต่อสาขา

“ผลประกอบการไตรมาส 2/56 ถือว่า ดีจากไตรมาส 1/56 เพราะเดือนเมษายน วันหยุดเยอะเป็นช่วงขายดีของบริษัทฯ รวมทั้งเป็นช่วงปิดเทอม และถือว่าการทำการตลาด มีโฆษณาผ่านทางสถานีโทรทัศน์ โฆษณาชุดแรกที่ออกไปได้รับการตอบรับดีมาก ปีนี้ทั้งปีเราจะมีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องในหลาย ๆ รูปแบบเพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด นางสาวสกุณา กล่าว

ผลประกอบการไตรมาส 1/56 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.88 เมื่อเปรียบเทียบ กับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 527.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.31 ล้านบาท มาจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือน มี.ค.56 บริษัทมีสาขารวม 139 สาขา นอกจากนี้ช่วงต้นปี 56 ยังมีการทำการตลาดโดยใช้สื่อโทรทัศน์ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลตอบรับในส่วนของรายได้ดีขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามจากการลงทุนขยายสาขาและใช้งบลงทุนด้านการตลาด ส่งผลต่อกำไรสุทธิของบริษัทฯ ที่มีการลงทุนและต้องชำระค่าเสื่อมราคาสาขาใหม่เพิ่มขึ้น ประกอบการรับรู้ค่าใช้จ่าย ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/56 จึงลดลง 7.24 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนโดยมีกำไรสุทธิไตรมาส 1/56 อยู่ที่3.58 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในคราวเดียว ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในคราวเดียวลดลงและส่งผลดีต่อกำไรสุทธิของบริษัทด้วย


แท็ก (HOTPOT)   ฮอท พอท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ