“เราตั้งเป้าว่าปี 58 จะทำยอดขายให้แตะ 1,000 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละปีก็ต้องทำยอดขายให้เติบโตปีละ 30% แต่เราต้องมีการขยายตลาดใหม่และลูกค้าใหม่เพิ่มไม่ว่าจะเป็นในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับเราก็ยังให้ความสำคัญกับลูกค้าเดิมซึ่งเราก็มีกการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าเช่นกัน แต่การที่จะไปถึง 1,000 ล้านบาท ก็คงอาจจะเหนื่อยหน่อย ซึ่งถ้ามีความร่วมมือต่างๆเข้ามาก็จะทำให้เราไปถึงได้เร็วขึ้น"นายสัญชัย กล่าว
ด้านตลาดส่งออกต่างประเทศบริษัทได้มีแผนการขยายตลาดในอินเดียเพิ่มอีก 2 หัวเมือง ทำให้สิ้นปีบริษัทจะมีตลาดในอินเดียที่มีดีลเลอรืเป็นตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด 8 หัวเมือง และจะเน้นขยายในภูมิภาคอาเซียนให้ครอบคลุม 9 ประเทศ ภายในปี 58 ซึ่งภายในปี 56-57 บริษัทจะมีการขยายตลาดผ่านดีลเลอร์ไปในประเทศ พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการขายผ่านดีลเลอร์ในภูมิภาคอาเซียนอยู่ 2 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์และเวียดนาม
นายสัญชัย กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรในประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเป็นการส่งเสริมให้บริษัทมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น โดยมองการเป็นพันธมิตรไว้ 3 รูปแบบ ได้แก่ การร่วมทุนแบบ Joint Venture และ การเข้าไปซื้อกิจการโรงงานที่เกี่ยวข้องกับบริษัท รวมถึงการเข้าไปถือหุ้นกับบริษัทที่มีความใกล้เคียงกันกับบริษัท ซึ่งภายในปีนี้อาจได้เห็นการข้าซื้อกิจการและการเข้าถือหุ้น แต่รูปแบบการร่วมทุนแบบ Joint Venture ต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา ซึ่งยังไม่เห็นในปีนี้อย่างแน่นอน
ส่วนกำไรในไตรมาส 2/56 คาดว่าจะใกล้เคียงกับกำไรในไตรมาส 1/56 ซึ่งมีกำไรสุทิอยู่ที่ 5.47 ล้านบาท เนื่องจากในเดือนพฤษภาคมมียอดออร์เดอร์จากต่างประเทศเข้ามาค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันคาดว่ารายได้ในไตรมาส 2/56 จะโตไม่ต่ำกว่า 30% ตามการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร อาคารสำนักงาน หรือร้านค้าปลีกมีการปรับปรุงและขยายสาขาจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดจะใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท
สำหรับไตรมาส 3/56 บริษัทได้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นผนังกั้นห้องสำเร็จรูป ซึ่งสามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและไม่มีงานเปียกเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยจะเจาะกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และอาคารสำนักงาน ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถช่วยส่งเสริมยอดขายของบริษัทเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากความต้องการในตลาดยังมีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอาคารสำนักงานที่มีการขยายตัวอย่างมากและมีการปรับปรุง 2-3 ปี/ครั้ง
ส่วนธุรกิจระบบประตูหน้าต่าง (เฟลทเชอร์) บริษัทได้มีการหากลุ้มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นโดยได้มีการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างจังหวัด เน้นกลุ่มบ้านพักตากอากาศ อย่างเช่นในพื้นที่เขาใหญ่ ภูเก็ต และสมุย เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่ากำไรในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปี 55 และรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปี 55 และปีนี้จะมีมูลค่างานในมือ (Backlog) 300 ล้านบาท และทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายจากต่างประเทศปีนี้อยู่ที่ 60 ล้านบาทจากปีที่แล้วยอดขายจากต่างประเทศอยู่ที่ 41.96 ล้านบาท และคาดว่าในไตรมาส 2/56 จะมียอดขายจากต่างประเทสแตะ 30 ล้านบาทได้ เนื่องจากมีแนวโน้มของยอดออเดอร์เข้ามาเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะได้รับผลกระทบในเรื่องค่าเงินบาทก็ตาม