นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอาจยังมีแรงขายต่อจากวานนี้ หลังจากตลาดหุ้นอินโดนีเซียยังปรับลง เช่นเดียวกับประเทศอื่นในภูมิภาคที่ปรับลงเกือบทุกตลาด แต่ตลาดหุ้นบ้านเราเมื่อวานนี้ลงลึกว่าตลาดอื่น อาจจะรีบาวด์ได้ทุกเมื่อแต่อาจจะไปได้ไม่ไกลมาก เพราะยังผันผวนจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก
ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 31 บาท/ดอลลาร์ไปแล้ว แสดงให้เห็นถึง Fund Flow ไหลออก และนักลงทุนที่ขายออกไปแล้วคงจะรีรอว่าจะกลับเข้าซื้อดีหรือไม่ ก็อาจจะไม่รีบเข้า
กลยุทธ์ช่วงนี้ แนะชะลอการลงทุน แม้พื้นฐานไม่เปลี่ยน แต่เมื่อ Fund Flow ไหลออกก็ควรรอให้กระแสเงินไหลออกหยุดก่อนแล้วค่อยกลับเข้ามาลงทุนก็ยังทัน โดยให้แนวรับอยู่ที่ 1,440 จุด
"ตลาดมองยาก..ไม่มีแนวโน้ม เพราะยังผันผวนอยู่ แนะนักลงทุนให้รอดีกว่า ให้แรงขายต่างชาติชะลอลงก่อน" นายอดิศักดิ์ กล่าวประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คปิดวานนี้ (11 มิ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,122.02 จุด ลดลง 116.57 จุด(-0.76%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,626.13 จุด ลดลง 16.68 จุด(-1.02%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,436.95 จุด ลดลง 36.82 จุด(-1.06%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 229.96 จุด,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 7.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 18.67 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.77 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 4.50 จุด
ตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลเรือมังกร ขณะที่ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้ (11 มิ.ย.) ที่ 1,452.63 จุด ลดลง 75.92 จุด(-4.97%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 5,481.56 ล้านบาท วานนี้
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 มิ.ย.)ที่ 95.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 99 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 มิ.ย.)ที่ 8.15 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทล่าสุดแตะ 31.03/05 อ่อนค่าสุดรอบ 8 เดือน
- นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้น-พันธบัตรดัชนีร่วงหนัก 4.97% ฉุดเงินบาทอ่อนค่ารอบกว่า 8 เดือน ใกล้แตะระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์ "ประสาร" ไม่กังวลทุนไหลออก มั่นใจทุนสำรองมากพอ เตือนรับมือผันผวน ด้านตลท.รายงาน"กิตติรัตน์" มั่นใจพื้นฐานหุ้นไทยยังแกร่ง ขณะโบรกฯคาดทุนไหลออกอีก 2-3 หมื่นล้าน มีโอกาสแตะ 1400 จุด
- เอสเอ็มอี ชิ้นส่วนยานยนต์ญี่ปุ่นเล็งลงทุนไทย รับอุตสาหกรรมขยายตัว ลดความเสี่ยงค่าเงิน เผย อุตสาหกรรมในไทยแตกธุรกิจใหม่ รับบริการจัดการ ก่อสร้าง จัดหาบุคลากรรองรับ เผยระยะ 3 ปี ยอดนำเข้าเครื่องจักรเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว
- "วราเทพ"เล็งเรียก"สุภา"แจงฐานคำนวณผลขาดทุนจำนำข้าว คาดข้อมูลที่รวบรวมได้ใกล้เคียงตัวเลข กขช. ยันไม่แก้ไขตัวเลขโครงการ วางกรอบ 4 ข้อหาข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ พร้อมเสนอ ครม.ทราบสัปดาห์หน้า "บุญทรง"ลั่นคุมค่าใช้จ่ายอยู่ในกรอบ 5 แสนล้าน ขณะที่ฝ่ายค้านหวั่นตั้ง"วราเทพ"อำพรางตัวเลขขาดทุน คณะยุทธศาสตร์เพื่อไทยเรียกกิตติรัตน์บุญทรงแจงจำนำข้าว
- ศูนย์วิจัยทองคำ เผยปีนี้นักลงทุนลดพอร์ตลงทุนทองคำ 12% เหลือ 22% จากปีก่อนลงทุนทองคำอยู่ 34% ของการลงทุนทั้งหมด ความเชื่อมั่นราคาทองคำปรับลงต่อเนื่อง มองแนวโน้มยังเป็นขาลง โอกาสปรับขึ้นมีน้อย ชี้เงินไหลออกตลาดหุ้นไม่เข้าตลาดทองคำ
*หุ้นเด่นวันนี้
- TISCO(ฟิลลิป)"ซื้อ"ราคาพื้นฐาน 56 บาท ถึงแม้สินเชื่ออาจจะชะลอตัวในครึ่งหลังของปีหลังจากที่รถตามโครงการรถคันแรกส่งมอบหมด แต่สินเชื่อที่เติบโตโดดเด่นในช่วงครึ่งปีแรกจะช่วยให้สินเชื่อรวมเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่ม,เป็นธนาคารที่มีระดับปันผลที่น่าสนใจ คงราคาพื้นฐานเมื่อเทียบกับราคาหุ้นที่ลดลงมามากมี Upside gain เพิ่มขึ้นมาเป็น 20%
- CPALL(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 63.00 บาท มีมุมมองบวกต่อการควบรวมกิจการจะเสริมความแข็งแกร่งจากการใช้ประโยชน์ร่วมกันของระบบกระจายสินค้า รวมทั้งเพิ่มอำนาจต่อรองกับ Supplier และโอกาสเติบโตผ่านการขยายสาขาต่างประเทศ คาดว่า Synergy จากการควบรวมจะหนุนกำไรสุทธิ 3 ปีข้างหน้าของ CPALL เติบโตต่อปี 24% (CAGR ปี 2556-2558)