"จะมีการชักจูงให้มีการเพิ่มกรรมการอิสระโดยจะมีการเพิ่มคะแนนให้แก่บริษัทจดทะเบียน ที่มีการเพิ่มกรรมการอิสระ เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจในบริษัทจดทะเบียนไทย รวมถึงจะสามารถรักษาระดับ ASEAN CG Scorecard ให้อยู่อันดับ 1 ได้ในการประเมินครั้งต่อไป"นายวรพล กล่าว
โครงการ ASEAN CG Scorecard เกิดจากแนวความคิดที่จะยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคอาเซียนให้เป็นที่สนใจต่อนักลงทุนทั่วโลก ตามความตั้งใจที่จะให้เกิดเป็น ASEAN Asset Class เพื่อรองรับการเป็นเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ซึ่งหลังจากที่ประเทศไทยได้รับการประเมินได้เป็นอันดับ 1 ในการประเมิน ASEAN CG Scorecard ทำนักนักลงทุนในต่างชาติมีความสนใจ และมีความเชื่อมั่น ในความโปร่งใส ส่งผลให้ระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน อาเซียน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากต่างชาติที่มีความเชื่อมันในตลาดทุนไทยเพิ่มมากขึ้น
นายวรพล กล่าวว่า ก.ล.ต.ยังมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านตลาดทุนของภูมิภาคอาเซียน โดยจะมีการยกระดับ ASEAN CG Scorecard ของไทยให้อยู่ในระดับที่ดีเพื่อสร้างนักลงทุนสถาบันให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มผลิตภัณฑ์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ดี ทำให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น จะแสดงถึงสภาพคล่องของตลาดทุนไทย ทำให้นักลงทุนทั่วโลกสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทย สุดท้ายแล้วก็จะทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านตลาดทุนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน มองว่าจากภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นบ้าง ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการนำเงินกลับไป ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันมีความผันผวน แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ได้มีการฟื้นตัวกลับมาดีมากนัก ตัวเลขสำคัญ เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรยังไม่ดีมาก ส่งผลให้ยังมองแนวโน้มที่จะกลับมาลงทุนในภูมิภาคเอาเซียนที่เศรษฐกิจมีความเข็งแกร่ง โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีและเข้มเข็ง และแนวโน้มยังสามารถเติบโตต่อไปได้ ทำให้ในอนาคตเชื่อว่านักลงทุนจะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง
ส่วนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ยังพบการกระทำผิดอยู่บ้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการควบคุมดูแลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ก.ล.ต. ก็ได้มีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มองว่าการปั่นหุ้นในปัจจุบันทำได้ยากมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความรู้ความเข้าใจที่มากขึ้น รวมถึงปริมาณการซื้อขายที่มากนั้น ทำให้การปั่นหุ้นยากมากขึ้น