นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่ายอดขายในปีนี้จะเติบโตต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ต้นปีที่ 10% เพราะกำลังซื้อไม่ได้ดีเหมือนปี 55 ทำให้สินค้าบางตัวมียอดขายเบาบางลง โดยเฉพาะเดือน พ.ค.ตัวเลขยอดขายทำไม่ได้ตามเป้า ส่วนหนึ่งมาจากยังเป็นช่วงปิดเทอม ขณะที่ตลาดต่างจังหวัดเป็นช่วงที่ผลผลิตผลไม้ออกมามาก ราคาขายจึงไม่สูง ส่งผลให้อำนาจซื้อลดลง
"กำลังซื้อปีนี้ไม่ flow เหมือนปีก่อน ซึ่งปีก่อน flow กระดก แต่ปีนี้ค่อยๆไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้หวังว่าจะดีจนพิเศษ สินค้าที่กำลังซื้อลดลงเป็นเครื่องใช้ประจำวัน แต่อาหารยังดี มาม่าก็ปกติไม่หวือหวา การลงทุนของเครือสหพัฒน์ปีนี้ไม่จำเป็นต้องเร่งมาก"นายบุณยสิทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายบุณยสิทธิ์ มองว่า กำลังซื้อต่างจังหวัดยังดีกว่าใน กทม.ที่ซบเซาลง เพราะค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้งได้รับผลกระทบจากนโยบายรถคันแรก ประกอบกับ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทจะมีผลมากในต่างจังหวัดมากกว่าใน กทม.ที่ส่วนใหญ่มีค่าแรงสูงอยู่แล้ว และค่าครองชีพสูงกว่า
นอกจากนั้น เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกในเครือหลายตัวถึงขั้นต้องม้วนเสื่อ โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายรองเท้าถุงเท้า เพราะสู้ต้นทุนกับต่างประเทศไม่ได้ บางแห่งที่เป็นกิจการขนาดเล็กก็ถึงขั้นต้องปิดโรงงาน ส่วนบางแห่งก็ slow down แต่หากปีหน้าเศรษฐกิจดีก็จะกลับมาลงทุนใหม่ อย่างไรก็ตาม ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเงินบาทก็เริ่มอ่อนเพราะมีเงินไหลออกค่อนข้างมาก