"บริษัทก็มองโอกาสปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มจากเดิมตั้งไว้เติบโต 10-15% จากปีก่อน แต่จะเพิ่มหรือไม่เพิ่มเราก็ลุ้นงานอีเว้นท์ภาครัฐอีก 2 งาน ซึ่งตอนนี้รอผลอยู่ เป็นงานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เราคาดว่ามีแนวโน้มจะได้รับงานสูง มูลค่างานไม่ต่ำกว่างานละ 40 ล้านบาท น่าจะมีข้อสรุปใน ก.ค.นี้ ถ้าเราได้ 2 งานนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะปรับเป้ารายได้เพิ่มขึ้น แต่ต้องนำเรื่องพิจารณาในที่ประชุมบอร์ดอีกที ก็จะมีข้อสรุปออกมาในเดือนหน้า"นายปฐม กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมแผนเพิ่มรายการใหม่ทางช่องฟรีทีวีและช่องเคเบิ้ลทีวีหรือทีวีดาวเทียมเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่ 2 รายการ ทางช่อง ททบ.5 และ TNN โดยตั้งเงินลงทุนในการผลิตรายการราว 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาผังรายการจากทางสถานีโทรทัศน์
ส่วนการผลิตสื่อ Digital Content บริษัทวางงบการพัฒนาไว้ที่ 15 ล้านบาท และมีการผลิตสื่อให้กับสถาบันการศึกษาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักศึกษาเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับมหาลัยวิทยาอัสสัมชัญบริหารธุรกิจและมหาวิทยาลัยศรีปทุม เพื่อผลิตสื่อ Digital Content ให้ คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในไตรมาส 3/56
ปัจจุบัน บริษัทมีงานผลิตสื่อ Digital Content ในรูปแบบ Multimedia Bookshelf ให้กับมหาลัยรังสิต มูลค่างานเกือบ 10 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/56 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้และกำไรออกมาดีกว่าไตรมาส 1/56 เนื่องจากปริมาณงานเข้ามากมาก รวมไปถึงการจัดงานอีเว้นท์ให้กับภาครัฐในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และรายได้จากค่าโฆษณารายการทีวีเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
นายปฐม ยังกล่าวว่า บริษัทคาดว่าการจัดงาน"คอมมาร์ต เน็กซ์เจน 2013"ระหว่างวันที่ 20-23 มิ.ย. 56 จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทราว 30-40 ล้านบาท และคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนจาการจับจ่ายใช้สอยภายในงานประมาณ 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากตลาดรวมสินค้าไอทีเริ่มเติบโตขึ้นจากต้นปีที่ยังได้รับผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรก ทำให้ประชาชนชะลอการซื้อสินค้าไอที และในไตรมาส 2/56 มีสินค้าไอทีที่เปิดตัวใหม่เป็นจำนวนมากช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาจับจ่ายมากขึ้นด้วย