โบรกฯมองตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้นต่างชาติรอจังหวะเข้า การเมืองกระทบแค่ระยะสั้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 2, 2013 16:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวในงานมหกรรมวิเคราะห์หลักทรัพย์และการลงทุน ในหัวข้อ"ทิศทางการลงทุนในโค้งสุดท้ายปี 56"ว่า ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โครงสร้างของบริษัทจดทะเบียนต่างๆยังมีความแข็งแกร่ง มีการควบรวมกิจการและขยายการลงทุนไปในต่างประเทศ ทำให้มีการเติบโตทางธุรกิจที่สูงและสร้างกำไรให้กับบริษัทได้มากขึ้น ประกอบการ ผลักดันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในปัจจุบันยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม นักลงทุนต่างชาติก็ยังมีความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่ยังมีความกังวลอยู่บ้างและรอจังหวะการลงทุน

“นักลงทุนต่างชาติที่เราได้ไปเดินสายโรดโชว์มาก็สนใจตลาดหุ้นไทย แต่เค้าก็ยังกังวลเกี่ยวกับโครงการภาครัฐต่างๆที่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ในระยะยาวและคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในประเทศในระยะยาวได้ ประกอบกับหนี้ครัวเรือนในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หลังจากสิ้นสุดนโยบายประชานิยมที่รัฐบาลเน้นการบริโภคในประเทศ ทำให้ต่างชาติตอนนี้ยังรอจังหวะในการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้วที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น"นายไพบูลย์ กล่าว

สำหรับสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศขณะนี้จะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น ซึ่งปัญหาการเมืองมีผลอต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและส่งผลต่อการพิจารณาการลงทุนโครงการต่างๆในโครงการภาครัฐ ทำให้โครงการต่างๆไม่เกิดขึ้น แต่ก็เป็นจังหะที่ดีในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงในการเข้าไปซื้อหุ้นในช่วงที่ลาดหุ้นปรับตัวลง

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจเศรษฐกิจโลกเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาดีขึ้น ซึ่งเป็นนัยสำคัญที่ส่งสัญญาณเศรษฐกิจของโลกเริ่มมีการฟื้นตัว ส่งผลต่อภาพรวมการลงทุนในทิศทางที่ดีขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นก็ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในกลุ่มที่เป็นตลาดเกิดขึ้นใหม่ เนื่องจากเม็ดเงินที่เคยไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเกิดใหม่ได้ไหลกลับไปลงทุนในตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว อย่างเช่น สหรัฐฯและญี่ปุ่น ทำให้ตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้น 13% yoy และตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลดลง 10% yoy

ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นผลจากการที่รัฐบาลจีนไม่ได้เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจมากเหมือนกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้เป็นปัจจัยลบที่ทำให้ความน่าสนใจในตลาดหุ้นเกิดใหม่ลดลงไปด้วย ทำให้นักลงทุนหันไปสนใจลงทุนในตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

“แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าเฟดจะลดขนาดมาตรการ QE ลง สภาพคล่องในระบบก็ยังมีจำนวนที่มาก เฟดก็ยังพิมพ์เงินออกมาเรื่อยๆ Fund Flow ก็ยังสำคัญในการเคลื่อนย้ายการลงทุนของนักลงทุนอยู่"นายไพบูลย์ กล่าว

ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET กล่าวว่า ภาพของเศรษฐกิจโลกในขณี้ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น เห็นได้ชัดจากสหรัฐฯที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆออกมาดีขึ้น โดยเฉพาะอัตราการว่างงานที่เริ่มดีขึ้นเหลือ 7.5% จาก 8% ซึ่งมีผลกระทบต่อกระแสเงินทุนในตลาดเกิดใหม่ได้ไหลกลับไปในประเทศที่พัฒนาแล้ว

ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศจีนมีการชะลอตัวลงโดยเติบโตลดลงเป็น 7% จาก 10% ทำให้ตลาดใหม่มีคามน่าสนใจในการลงทุนลดลง แต่เชื่อ่าในอนาคตจีนยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก เนื่องจากประชากรในประเทศมีมาก มีการลงทุนต่างๆในประเทศเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

“นักงทุนยังมองว่าตลาดในประเทศจีนยังมีคามเสี่ยงในการลงทุน ทำให้ชะลอการลงทุนไป เนื่องจากเป็นการมองว่าตลาดทุนในประเทศจีนมีบางส่วนที่ไม่ใช่ของจริง ทำให้เกิดคามเยงอยู่มากและส่งผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่"นายมนตรี กล่าว

สำหรับประเทศไทยในปัจจัยเกี่ยวกับการผลักดันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานยังไม่ได้รับความชัดเจน ทำให้นักลงทุนต่าชาติมีการชะลอการลงทุน เนื่องจากไม่มีความมั่นใจว่าโครงการต่างๆของภาครัฐจะเห็นผลจริงหรือไม่ และตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ก็ยังมีความผันผวนจากปัจจัยทางการเมือง การเคลื่อนย้ายกระแสเงินทุน และการปรับลดเครดิตของมูดี้ส์ และเชื่อว่าในปีนี้ทั้งปีตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวน

ด้านการลงทุนในหุ้นแนะนำนักลงทุนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศที่มีการฟื้นตัวขึ้น อย่างเช่นญี่ปุ่น โดยหุ้นที่น่าสนใจลงทุนเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์และชิ้นส่นรถยนต์ และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศที่มีการชะลอตัว ทำให้ราคาหุ้นลดลง ซึ่งเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ อย่างเช่น หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มเช่าซื้อ เป็นต้น และหุ้นกลุ่มสื่อสารที่จะได้รับผลประโยชน์จากการประมูลทีวีดิจิตอลก็เป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าสนใจในการลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ