หุ้น TMB ราคาอยู่ที่ 2.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท(+2.44%)มูลค่าซื้อขาย 278.40 ล้านบาท
หุ้น SCB ราคาอยู่ที่ 145 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท(+2.11%)มูลค่าซื้อขาย 235.93 ล้านบาท
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ฯคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคาร"มากกว่าตลาด"แม้สินเชื่อรวมเดือน ก.ค. 56 เติบโตชะลอตัว 0.3%MoM และขยายตัว 5.6% ใน 7M56 แม้สินเชื่อจะมีแนวโน้มชะลอตัวตามเศรษฐกิจ แต่ความต้องสินเชื่อจากธุรกิจส่งออก และการใช้จ่ายบุคคลมักจะเร่งตัวขึ้นใน 2H56 ทำให้คงประมาณการการเติบโตของสินเชื่อรวมทั้งปี 56 ที่ 11.4%YoY
ทั้งนี้ คาดกลุ่มฯมีอัตราการเติบโตของ EPS โดดเด่นที่ 18%YoY ใน 56 สูงกว่า EPS ของ SET ที่เติบโตราว 14%, การประเมินมูลค่า กลุ่มฯ ซื้อขาย 2013 P/BV ที่ 1.5 เท่า ต่ำกว่า SET ที่ 2.1 เท่า และซื้อขาย 2013 P/E ที่ 9.4 เท่า ต่ำกว่า SET ที่ 14 เท่า ขณะที่มี ROE ใกล้เคียงกับ SET ที่ราว 15% และกลุ่มฯ มีพื้นฐานแข็งแกร่ง หนี้เสียต่ำ และการตั้งสำรองหนี้ฯ สูงสามารถรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เลือกธนาคารที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีอัตราการเติบโตของกำไรดีต่อเนื่อง เลือก BBL (Fair value ที่ 260 บาท) KBANK (Fair value ที่ 232 บาท) SCB (Fair value ที่ 206 บาท) เป็นหุ้นเด่น
สินเชื่อรวมใน 7M56 เติบโต 5.6% จากสิ้นปี 55 เป็นผลมาจากการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อบุคคล โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่เติบโตตามยอดขายรถยนต์ (ยอดขายรถยนต์เดือน ม.ค.-ก.ค. 56 มีปริมาณขาย 8.39 แสนคัน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน) โดย TISCO มีสินเชื่อใน 7M56 เพิ่มขึ้นสูงสุด 13.3% รองลงมาเป็น KKP (+9.3%) ขณะที่สินเชื่อของ KTB เติบโตสูงสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่ 8.6%
ทั้งนี้ แม้สินเชื่อเดือน ก.ค.จะมีแนวโน้มชะลอตัว แต่ความต้องสินเชื่อจากธุรกิจส่งออก และการใช้จ่ายบุคคลมักจะเร่งตัวขึ้นใน 2H56 ทำให้เราคงประมาณการการเติบโตของสินเชื่อรวมทั้งปี 56 ที่ 11.4%YoY