(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวน์ตามตลาดภูมิภาค หลังร่วงหลายวันติดต่อกัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 29, 2013 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวน์ขึ้นได้หลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปหลายวันติดต่อกัน จนสัญญาณทางเทคนิคเกิด Oversold มาก แต่มองว่าการรีบาวน์คงจะไปได้ไม่ไกลนัก

ทั้งนี้ นักลงทุนยังให้ความกังวลเกี่ยวกับ Fund Flow, เหตุการณ์ในซีเรีย, เศรษฐกิจที่อ่อนตัว โดยในวันพรุ่งนี้แบงก์ชาติจะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจงวดเดือนกรกฏาคมซึ่งจะต้องติดตามดู ส่วนเรื่องเงินบาทอ่อนค่า จะเห็นได้ว่าเช้านี้เริ่มชะลอการอ่อนค่าบ้าง จึงน่าจะมีลุ้นรีบาวน์แต่มองว่ายังไม่ได้เปลี่ยน trend ไป

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,260 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,290-1,300 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(28 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,824.51 จุด เพิ่มขึ้น 48.38 จุด(+0.33%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,634.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.48 จุด(+0.27%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,593.35 จุด เพิ่มขึ้น 14.83 จุด(+0.41%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 44.49 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.14 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 88.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 17.45 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.51 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 33.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.66 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.00 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(28 ส.ค.) ที่ 1,275.76 จุด ลดลง 18.21 จุด(-1.41%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,069.33 ล้านบาท เมื่อ 28 ส.ค.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(28 ส.ค.)ที่ 110.10 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(28 ส.ค.)ที่ 3.64 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.17/19 เคลื่อนไหวตามภูมิภาค
  • "ประสาร"ชี้เงินไหลออกช่วงสั้น เป็นสถานการณ์"ม้วนกลับ"ของเงินทุน แนะเร่งฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ แยกแยะไทยออกจากกลุ่มประเทศที่มีปัญหาลั่นพร้อมดูแลค่าบาทให้มีเสถียรภาพ"กิตติรัตน์"มั่นใจความผันผวนลดลง ระบุ"เงินร้อน"ไหลออกเกือบหมดแล้ว ขณะต่างชาติแห่ร่วม "ไทยแลนด์โฟกัส" วงการตลาดทุนยังมั่นใจเศรษฐกิจไทย
  • "พงษ์ศักดิ์"หวั่นปัญหา"ซีเรีย"ดันราคาน้ำมันพุ่ง เตรียมใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ 7 พันล้าน ตรึงราคา "กลุ่มเบนซิน-ดีเซล" ให้นานที่สุด หวั่นราคาน้ำมันดิบดูไบทะลุ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น "ไพรินทร์" คาดราคาตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง เดินหน้าปรับราคาแอลพีจีครัวเรือน 1 ก.ย.นี้ ลดภาระกองทุนน้ำมันฯ เครือช่ายประชาชนฯ ยื่นศาลระงับปรับราคาวันนี้
  • กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มวันที่ 1 ก.ย.นี้ จะทำให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) จานละ 5-10 บาท แม้ว่าต้นทุนอาหารจานด่วนจะปรับขึ้นไม่สูงนักก็ตาม กรมการค้าภายในจึงเตรียมส่งเจ้าหน้าที่สำนักงานค้าภายในจังหวัดปูพรมลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าทั่วประเทศ ป้องกันการฉวยโอกาสดังกล่าว
  • คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ใช้เวลาประชุม 3 ชั่วโมง ก่อนเห็นชอบให้การส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลรุ่นที่ 2 หรือ อีโคคาร์2 โดยกำหนดให้ยื่นขอรับส่งเสริมภายในวันที่ 31 มี.ค. 2557
  • นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยเดือนตุลาคมนี้ สศอ.จะปรับประมาณการอัตราการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรม จากปัจจุบันคาดการณ์ไว้ที่ 3-4% ล่าสุด จีดีพีช่วง 7 เดือนของปี(มกราคม-กรกฎาคม)อยู่ที่ 1.9% นอกจากนี้จะปรับประมาณการดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม(เอ็มพีไอ)เพราะช่วง 7 เดือนติดลบแล้ว 1.5% จากเป้าหมายเดิมอยู่ที่ 0.5-1% โดยช่วง 3 เดือนจากนี้หากภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัวจาก การส่งออก และการบริโภคในประเทศชะลอตัว เชื่อว่าการประมาณการจีดีพีอุตสาหกรรม และเอ็มพีไอของปีนี้คงน้อยกว่าคาดการณ์พอสมควร โดยเฉพาะเอ็มพีไอทั้งปีเสี่ยงติดลบสูง
  • ค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องหลังมีข่าวสหรัฐลดปริมาณการอัดฉีดเงินลง โดยธนาคารพาณิชย์ต่างแจ้งให้ลูกค้าผู้ส่งออก ผู้นำเข้า เร่งปิดความเสี่ยง เพราะประเมินว่าอาจอ่อนค่าไปถึง 33-33.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐในระยะเวลาอันสั้นนี้ ซึ่งแม้จะช่วยการส่งออกและกระทบต่อต้นทุนน้ำมัน เมื่อประกอบกับเงินทุนยังไหลออกจากไทยอย่างต่อเนื่องร่วม 1.5 แสนล้านบาทแล้ว อาจทำให้สภาพคล่องในตลาดฝืดเคืองลง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SYMC (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 19 บาท ยังมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐาน SYMC คาดต้นทุนส่วนเพิ่มจากการลงทุนและการเช่าโครงข่ายเป็นปัจจัยลบระยะสั้นต่อผลการดำเนินงาน คาดว่าจะเริ่มเห็นประโยชน์การประหยัดต้นทุนจากการใช้งานโครงข่ายครึ่งหลังปี 2557 ทำให้กำไรสุทธิจะกลับมาเติบโต 18% จากปี 2556 และคาดว่าผลประกอบการระยะยาว 5 ปีข้างหน้ามีกำไรสุทธิเติบโตต่อปี 14% (CAGR ปี 2556 - 2560)
  • BCP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 40 บาท ชอบในแง่ของการกระจายความเสี่ยงธุรกิจ ไปยังธุรกิจผลิตโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่มีกระแสเงินสดมั่นคง และเป็นการลดการพึ่งพาธุรกิจโรงกลั่นที่มีความผันผวนสูง ขณะที่บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์เพิ่มอีก 48 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ภายใน พ.ค.2557 ทำให้ได้กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มอีก 69% นอกจากนี้การเปลี่ยนหอกลั่นเดิมที่มีกำลังการผลิต 80 พันบาร์เรลต่อวันเป็น 100 พันบาร์เรลต่อวัน จะส่งผลให้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น 17% ในช่วงกลางปี 2557
  • TTA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อลงทุน"เป้า 23 บาท คาดผลการดำเนินงานปกติ 4Q13 (ก.ค.-ก.ย.2013) จะยังคงมีกำไรต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 3Q13 ที่มีกำไรปกติ 148 ล้านบาท เพราะได้ผลบวกจากธุรกิจเมอร์เมดที่เข้าสูงช่วง High season โดยประเมินปี 2013 (ต.ค.12-ก.ย.13) จะขาดทุนปกติ 189 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 516 ล้านบาท ดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุนปกติ 341 ล้านบาทและขาดทุนสุทธิ 4,619 ล้านบาท สำหรับปี 2014 (ต.ค.13-ก.ย.14) คาดว่า TTA จะพลิกเป็นกำไรได้ราว 500 ล้านบาท จากธุรกิจเมอร์เมดที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นมาก เช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ๆ
  • TOP (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 69 บาท เบื้องต้นคาดผลประกอบการ 3Q56 ของ TOP จะโดดเด่นสุดเมื่อเทียบกับหุ้นโรงกลั่นในกลุ่ม โดยคาดว่า TOP จะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันสูงถึง US$4-5/barrel หลังราคาน้ำมันดิบดูไบ ปรับตัวขึ้น +18.8% QTD เป็น US$112.98/barrel ใน 3Q56 จากสิ้นสุด 2Q56 ที่ US$94.12/barrel ดังนั้น คาดว่าผลประกอบการ 3Q56 จะพลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ จากขาดทุนสุทธิใน 2Q56

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ