PHOL เล็งขยายธุรกิจน้ำ-ธุรกิจในตปท. หนุนรายได้โต คาด 5 ปีแตะ 2.5 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 7, 2013 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ผลธัญญะ (PHOL) คาดว่าจเซ็นสัญญาทำโครงการผลิตน้ำเพื่อใช้อุปโภคและบริโภคในประเทศ เขตเทศบาล จังหวัดภาคเหนือ 1 โครงการได้ประมาณไตรมาส 4/56 นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่ คาดว่าจะสามารถก่อสร้างเสร็จได้ในกลางปี 57 โดยจะใช้เงินลงทุนราว 50-60 ล้านบาท ซึ่งจะมีกำลังการผลิตน้ำ 5,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีอายุสัญญาสัมปทาน 15-20 ปี คาดจะสร้างรายได้ราว 15 ล้านบาทต่อปี บริษัทลงทุนเอง 100% คาดคืนทุนได้ภายใน 6 ปี

นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจาอีก 3-4 เทศบาล ซึ่งหากสามารถลงทุนสำเร็จ 1 โครงการ ก็จะทำให้เข้าไปรับงานในการผลิตน้ำให้กับเทศบาลต่างๆได้มากขึ้น

ส่วนโครงการสัมปทานผลิตน้ำในพม่าร่วมกับพันธมิตร 1 โครงการ ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าโครงการนี้ได้ ส่วนการเปิดบริษัทย่อยในกัมพูชาคาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ หลังการเมืองในประเทศเริ่มสงบ นอกจากนี้ บริษัทมีความสนใจจะเข้าไปทำธุรกิจน้ำในลาว และเวียดนาม และทุกประเทศในแถบภูมิภาคนี้ หากมีโอกาสก็จะเข้าไปหาพันธมิตร

ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาซื้อกิจการบริษัทในต่างประเทศ ประกอบธุรกิจลักษณะเดียวกันโดยจะใช้บริษัทดังกล่าวเป็นฐานในการขยายธุรกิจไปในอาเซียนและต่อยอดธุรกิจ คาดจะใช้เงินลงทุนราว 200 ล้านบาท หรือมากกว่า ซึ่งระหว่างศึกษาแหล่งที่มาของเงิน หากสรุปการเข้าซื้อกิจการได้ ภายใน 5 ปี หวังมีรายได้จากควบรวมกิจการ 500 ล้านบาท

"ธุรกิจหลักในการขายอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยจะโตตามอุตฯต่างๆ ราว 10-15% ต่อปี แต่หากเศรษฐกิจไม่ดี ก็จะมีผลกระทบต่อยอดขายได้ ซึ่งบริษัทพยายามหาธุรกิจที่สร้างรายได้มั่นคง คือ ธุรกิจน้ำ จากเป็นตลาดที่ใหญ่และมีความต้องใช้สูง เชื่อว่าในช่วง 2-3 ปี สัดส่วนรายได้ธุรกิจน้ำจะเติบโตสูง 30-50% จากฐานที่เล็ก และการซื้อกิจการก็สามารถต่อยอดธุรกิจได้ "นายบุญชัย กล่าว

ทั้งนี้ ภายใน 5 ปี (56-60) บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท จากปีนี้คาดอยู่ที่ 800 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ที่มีรายได้รวม 794 ล้านบาท ซึ่งรายได้ปีนี้ถือว่าโตต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ราว 1,000 ล้านบาท หรือโต 15% จากปี 55 เนื่องจากบริษัทไม่สามารถเข้าประมูลงานขายถุงมืออนามัยที่ใช้ในโรงพยาบาลได้ เพราะไม่สามารถการจัดหาถุงมือแบรนด์ใหม่เข้าไปประมูลได้จากแบรนด์ที่ไปนำเสนอนั้นมีปัญหาในเรื่องคุณภาพสินค้า โดยคาดว่าจะเข้าประมูลใหม่ได้ในไตรมาส 4/56 นี้

ประกอบกับธุรกิจหลักในการขายสินค้าให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและไทยชะลอตัว ทำให้ยอดคำสั่งซื้อสินค้าลดลง และผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ได้ย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศหลังไทยมีปัญหาน้ำท่วมทำให้ไม่มั่นใจที่จะมีการลงทุนเพิ่มและค่าแรงงานปรับตัวเพิ่มขึ้นขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ไปขยายการผลิตในต่างประเทศแทน เพื่อกระจายความเสี่ยง บริษัทจึงปรับกลยุทธ์ขายสินค้ามาร์จินสูงแทน

ในส่วนกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่ 44.73 ล้านบาท เนื่องจากมีการนำสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงและควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ