การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยแตะจุดต่ำสุดของวันที่ระดับ 1,446.40 จุด ส่วนดัชนีจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 1,485.67 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 146 หลักทรัพย์ ลดลง 687 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 81 หลักทรัพย์
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวลงอย่างแรงจากแรงขายทำกำไร โดยมีปัจจัยทางการเมืองเกี่ยวกับการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เป็นปัจจัยกดดันตลาดในวันนี้ ประกอบกับ มีการเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์ หลังจากหมดช่วงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3/56
"จริงๆ แล้วตลาดในสัปดาห์นี้ค่อนข้างเปราะบาง ถ้ามีข่าวร้ายหรือข่าวเชิงลบเข้ามาก็พร้อมขายทำกำไรเพราะในช่วงสัปดาห์ที่แล้วตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ ขานรับเรื่องการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯชั่วคราว อย่างวันนี้พอมีเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่คาดว่าน่าจะมีการยื่นเข้าสภาฯต้นพ.ย.เข้ามากดดันให้มีการขายทำกำไรออกมา และหุ้นกลุ่มแบงก์ที่งบฯออกมาดี ช่วงนี้ก็หมดการเก็งกำไรในระยะสั้น ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีจะประกาศงบฯปลายเดือนนี้-ต้นพ.ย.ทำให้สัปดาห์หนี้ไม่มีเรื่องการเก็งกำไรผลประกอบการมาช่วยประคองตลาด"นายกิจพล กล่าว
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่ายังมีความผันผวน สัปดาห์นี้ก็ยังมีโอกาสเจอแรงขายทำกำไรออกมาได้อีกในบางช่วง และตลาดทองคำมีการรีบาวด์ขึ้นในระยะสั้น แสดงว่านักลงทุนยังอยู่ในช่วงปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อรองรับความเสี่ยง แต่ภาพใหญ่ของตลาดหุ้นยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี พร้อมให้แนวต้าน 1,465 จุด แนวรับ 1,440 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 4,024.42 ล้านบาท ปิดที่ 9.20 บาท ลดลง 0.65 บาท
ADVANCE มูลค่าการซื้อขาย 2,888.97 ล้านบาท ปิดที่ 260.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,838.34 ล้านบาท ปิดที่ 185.50 บาท ลดลง 7.00 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,738.75 ล้านบาท ปิดที่ 84.50 บาท ลดลง 2.75 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,610.34 ล้านบาท ปิดที่ 9.10 บาท ลดลง 0.50 บาท