MALEE ลั่นพร้อมเดินหน้าเต็มที่ขยายธุรกิจรับจ้างผลิตให้เติบโตในปี 57

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 12, 2013 10:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นาวสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ กรรมการและรองผู้จัดการใหญ่สายการขายและการตลาด บมจ.มาลีสามพราน(MALEE) เปิดเผยว่า ในปี 55 บริษัทรับงานรับจ้างผลิตในปริมาณสูงมากเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากหลายๆ ธุรกิจประสบปัญหาสภาวะน้ำท่วม แต่ในปี 56 ภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้กำลังซื้อและการจับจ่ายของผู้บริโภคลดลง ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ค่าใช้จ่ายทางการตลาดในการโปรโมทผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเต็มที่ในการขยายธุรกิจรับจ้างผลิตให้เติบโตในปี 57

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2556 สภาพเศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวค่อนข้างน้อย ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และสภาพคล่องในตลาดน้อยลง ทั้งนี้บริษัทสามารถทำยอดขายรวมในไตรมาส 3/56 เท่ากับ 1,206.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 83.2 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.59 บาท โดยลดลงจากไตรมาส 2/56 ซึ่งมียอดขายรวม 1,404.80 ล้านบาท กำไรสุทธิ 91.2 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น (EPS) 0.65 บาท อันเนื่องมาจากยอดขายในประเทศของธุรกิจรับจ้างผลิตลดลง แต่ยอดขายในส่วนของธุรกิจตราผลิตภัณฑ์มาลีกลับเติบโตขึ้น 7.6%"

งวด 9 เดือนแรกของปี 56 มียอดขายรวม 4,012.8 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้วซึ่งมียอดขายรวม 4,721ล้านบาท หรือลดลง 14% และมีกำไรสุทธิรวมในเก้าเดือนแรกปี 56 เท่ากับ 258 ล้านบาท ต่ำกว่ายอดกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกในปีที่แล้วที่มียอดกำไรสุทธิ 437.3 ล้านบาท

นาวสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ กล่าวต่อว่า บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แบรนด์มาลีใหม่ภายใต้ชื่อ “Malee Healti Plus" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด โดยเป็นเจ้าแรกที่ผสมผสานสองคุณค่าจากน้ำแร่ธรรมชาติลงในน้ำผลไม้ชั้นเลิศ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคที่รักสุขภาพ โดยคาดว่า Malee Healti Plus จะมีสัดส่วนยอดขายต่อกลุ่มน้ำผลไม้แบรนด์มาลี ไม่ต่ำกว่า 10% ในปี 57

บริษัทยังได้รับรางวัล เป็น 1 ใน 200 สุดยอดบริษัทขนาดกลางและเล็กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia’s 200 Best Under a Billion) จากนิตยสาร FORBES ซึ่งประเทศไทยมีเพียง 8 บริษัทเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือกครั้งนี้ และเป็นบริษัทเดียวในไทยที่เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคหรือ Fast Moving Consumer Goods(FMCG)ที่ได้รับรางวัลนี้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีโครงสร้างธุรกิจที่มั่นคง มีผลการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง การจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงมีโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสม ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น และให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูง โดย MALEE มีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงถึง 50% มีอัตราผลตอบแทนต่อทรัพย์สิน (ROA) ที่ 23% และ อัตราเงินปันผลเฉลี่ย 4.32% (ตัวเลข ณ วันที่ 4 พ.ย. 2556)"

ปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินธุรกิจทั้งแบบ Own Brand Manufacturing คือการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม น้ำผลไม้และผลไม้กระป๋องภายใต้แบรนด์ MALEE รวมถึงนมสด 100% ตราฟาร์มโชคชัย นอกจากนี้ MALEE ยังเป็นผู้ให้บริการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และรับจ้างผลิต (Contract Manufacturing) ให้กับบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสามารถสร้างรายได้และผลกำไรที่มั่นคงให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ