ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนตุลาคม ตลาดทุนไทยได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากปัญหาการเมืองในประเทศ
สำหรับ Market capitalization ของ SET อยู่ที่ 12,594,616 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.26% จากเดือนก่อนหน้า และของ mai อยู่ที่ 189,278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.42% จากเดือนก่อนหน้า ตามทิศทางของดัชนีตลาดหลักทรัพย์
ส่วน Forward P/E ratio ของ SET อยู่ที่ 14.60 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 13.80 เท่าในเดือนก่อนหน้า และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค ซึ่งอยู่ที่ 13.86 เท่า สำหรับ mai อยู่ที่ 19.36 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 17.08 เท่าในเดือนก่อนหน้า
และ อัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 3.03% และ mai อยู่ที่ 1.58%
ในเดือนตุลาคม 2556 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 39,078 ล้านบาท ลดลง 15.91% จากเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 3.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2556 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมอยู่ที่ 53,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา ด้วยมูลค่า 1,070 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2556 ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 105,338 ล้านบาท ขณะที่ผู้ลงทุนกลุ่มอื่นๆ เป็นผู้ซื้อสุทธิ
ส่วนการระดมทุน บริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai มีการระดมทุนรวม 4,417 ล้านบาท แยกเป็นการระดมทุนในตลาดแรก 342 ล้านบาท และระดมทุนตลาดรอง 4,075 ล้านบาท ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2556 มีมูลค่าการระดมทุนสะสมทั้งสิ้น 220,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 1 เท่าจากปีก่อนหน้า
ด้านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 63,467 สัญญา ลดลง 3.47% จากเดือนก่อนหน้า และในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2556 มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 70,775 สัญญา เพิ่มขึ้น 60.34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่มาจาก Single Stock Futures ทั้งนี้ Single Stock Futures มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 29,100 สัญญาในเดือนก่อนหน้า เป็น 38,263 สัญญาในเดือนตุลาคม
"ผลของมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่ชัดเจนขึ้นในเรื่องการแก้ปัญหาภาระหนี้การคลังและการปรับนโยบายการเงิน ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในเอเชียรวมถึงไทยปรับตัวสูงขึ้น" เอกสารเผยแพร่ ระบุ