(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ เฝ้ารอดูศาลรธน.ตัดสินที่มาของส.ว.

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังอยู่ในแดนบวกได้ ยกเว้นนิกเคอิที่ติดลบแต่ก็เล็กน้อย เนื่องจากเมื่อวานนี้ได้บวกแรง วันนี้ก็มีแรง take profit บ้างเป็นธรรมชาติ

ดังนั้น ตลาดบ้านเราจะเห็นได้ว่าปัจจัยนอกประเทศไม่ได้ส่งผลลบต่อตลาดฯ ตอนนี้นักลงทุนคงยังรอดูวันที่ 20 พ.ย.นี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณาเรื่องที่มาของสว.

พร้อมให้แนวรับ 1,403 จุด แนวต้าน 1,426-1,438 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(18 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,976.02 จุด เพิ่มขึ้น 14.32 จุด (+0.09%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,791.53 จุด ลดลง 6.65 จุด (-0.37%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,949.07 จุด ลดลง 36.90 จุด(-0.93%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 67.67 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.10 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้เพิ่มขึ้น 174.46 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 23.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 0.86 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.17 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.07 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 7.00 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(18 พ.ย.)ที่ 1,423.96 จุด เพิ่มขึ้น 3.30 จุด(+0.23%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 598.78 ล้านบาท เมื่อ 18 พ.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(18 พ.ย.)ที่ 93.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.81 ดอลลาร์ฯ
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(18 พ.ย.)ที่ 3.78 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.58/59 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจากวานนี้
• สศช.หั่นประมาณการเศรษฐกิจใหม่คาดปีนี้โตเหลือ 3% เหตุส่งออกร่วงหนักจากเศรษฐกิจโลกซบเซา คาดโต 0% หวังปีหน้าฟื้นตามเศรษฐกิจโลก ด้าน"โฆสิต"ไม่มั่นใจ เหตุเอกชนยังปรับตัวไม่ได้ หวั่นแข่งขันสู้ประเทศอื่นยาก ขณะพาณิชย์ยังยืนเป้าเดิมปีนี้โต 1%
• "โฆสิต"แนะไทยเร่งพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ก้าวข้ามการใช้"ประชานิยม-สินเชื่อ"ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจแค่ระยะสั้น ถ่วงเติบโตระยะยาว "ณรงค์ชัย"เตือนกลไกตลาดบิดเบือน กรณีข้าวไทยจากคุณภาพดีกลายเป็นแย่ "ปรีดิยาธร"ระบุโครงการรัฐกดเศรษฐกิจตกต่ำ กรณี"รถยนต์คันแรก"ดีแค่ปีแรก ส่วน 2 ล้านล้านบาทมีคุ้มค่าแค่ 1.5 ล้านล้านบาท
• หุ้นโลกปรับขึ้นร้อนแรง แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขานรับจีนปฏิรูปเศรษฐกิจ-สังคมครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี และตลาดประเมินเฟดชะลอลด QE เดือนม.ค.ปีหน้า ขณะค่าเงินเอเชียแข็งจากแรงซื้อคืนของนักลงทุนหลังเทขายอย่างหนักก่อนหน้า แม้นักวิเคราะห์คาดเงินยังไม่กลับเข้าตลาดเอเชีย
• ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่าผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย อาจมีความเสี่ยงจากการเติบโตที่ลดลง เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่คาดว่าจะลดลงขณะที่ธนาคารเริ่มมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้แก่บุคคลธรรมดามากขึ้น เนื่องจากหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นจนเกือบ 80% ของจีดีพี ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2556 อาจส่งผลให้การปฏิเสธการให้สินเชื่อเพิ่มสูงขึ้นรวมถึงทำให้ลูกค้าใหม่ๆ ชะลอการตัดสินใจซื้อ
• ที่ประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาทเป็นรายมาตรา ได้มีการแก้ไขร่างกฎหมายให้เป็นไปตามที่รัฐบาลต้องการ โดยในวันที่ 19 พ.ย. จะมีการประชุมอีกวันเพื่อพิจารณาลงมติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิธีงบประมาณการใช้เงินกู้
• ฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยว่า การแข่งขันในการช่วงชิงงบโฆษณาทางโทรทัศน์ในประเทศไทยจะรุนแรงมากขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้า หลังจากทีวีดิจิตอลเริ่มออกอากาศ ซึ่งน่าจะทำให้อัตราค่าโฆษณาทางโทรทัศน์ฟรีทีวีภาคพื้นดินลดลง
• ธปท.เผยสินเชื่อแบงก์ทั้งปียังขยายตัวได้ 12% ระบุชะลอตัวลง ผลจากกำลังซื้อประชาชนลด ทำให้ยอดปล่อยกู้บุคคล-บัตรเครดิตชะลอ แต่ยังดีกว่า จีดีพีที่โตเพียง 3% ย้ำไม่ห่วงเอ็นพีแอล หลังแบงก์เร่งแก้ปัญหาหนี้จัดชั้นก่อนเป็นเอ็นพีแอล แต่ยังกันสำรองเพิ่มอีก 9 พันล้านบาท ชี้สภาพคล่องแบงก์ตึงตัวอาจ เห็นการแข่งขันเงินฝากดุ
• กบข.เปิดกลยุทธ์การลงทุนปี 57 เน้นลงทุนหุ้นประเทศอุตสาหกรรมหลัก"สหรัฐ-ยุโรป-ญี่ปุ่น"เชื่อหลังเฟดลดคิวอี เงินไหลเข้าประเทศเหล่านี้ ทั้งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้น พร้อมเตรียมขยายการลงทุนทางเลือกอื่นเพิ่ม รุกตลาดอิควิตี้ฟันด์'โสภาวดี'โชว์ผลงาน 4 ปี สินทรัพย์เพิ่มกว่า 46% ผลตอบแทนเฉลี่ย 6-7%
• รายงานข่าวแจ้งว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 19 พ.ย.นี้กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องขออนุมัติมาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมในการโอนเหลือ 0.01% เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้

*หุ้นเด่นวันนี้

• MEGA (บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์)เทรดวันแรกในตลาด SET ราคา IPO 17.50 บาท จำนวนหุ้น IPO 164,357,400 หุ้น จำนวนหุ้นจดทะเบียนและเป็นหุ้นที่ชำระแล้ว 865,248,608 หุ้น ราคา Par 0.50 บาทต่อหุ้น MEGA เป็นบริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำระดับสากล ณ ปัจจุบันเป็นผู้จัดจำหน่ายชั้นนำในประเทศกำลังพัฒนาได้แก่เมียนมาร์ เวียดนาม และกัมพูชา นอกจากนี้มีการพัฒนา ผลิต ทำการตลาด และขายผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงสุขภาพผลิตภัณฑ์ยาตามใบสั่งแพทย์และผลิตภัณฑ์ยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์เครื่องหมายการค้า Mega WeCareTM ผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายของบริษัทและผู้จัดจำหน่ายภายนอกใน 29 ประเทศต่างๆ ทั่วโลก
• SAMART(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 27.40 บาท มี Momentum ผลการดำเนินงานโดดเด่น จากธุรกิจปกติ 4Q56 จะมีกำไรราว 379 ล้านบาท +35% YoY ส่งผลให้กำไรสุทธิปีนี้จะโตกว่า 34% เป็น 1,435 ล้านบาท และเพิ่มอีก 20% YoY เป็น 1,727 ในปี 57 ประเมินผลดำเนินงาน SIM และ SAMTEL กลับสู่การเติบโตระดับปกติราว 5-10% ในปี 57 ขณะที่ธุรกิจ Non listed โดยเฉพาะ SAMART U-Trans และ SAMART Engineering จะมีบทบาทมากขึ้นช่วยกระจายความเสี่ยง
• KCE(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 25.30 บาท เงินบาทอ่อนค่าลงใน 4Q56 จะเป็นปัจจัยหนุนในเชิง Sentiment ต่อราคาหุ้นในระยะสั้น ประเมินทุก 1% ที่บาทอ่อนค่าจากสมมติฐาน 31.5 บาท/ดอลลาร์จะมีผลกำไรเพิ่มขึ้น 6% แนวโน้มปี 57มองบวกต่อการเติบโต คาดกำไรสุทธิ 1.14 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY บริษัทจะขยายรง.ใหม่เฟสแรก 7 แสนตารางฟุตใน 1Q57
• VGI(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 15.60 บาท ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดียามหุ้นผันผวนเพราะแนวโน้มการเติบโตสดใส คาดรายได้ปีนี้เติบโต 29% โดยหลักมาจากรายได้ค่าโฆษณา อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 60% จากสัดส่วนรายได้โฆษณาบน BTS ให้มาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น ระยะยาวมีโอกาสได้ธุรกิจใหม่ๆ จาก AEC และโฆษณาผ่าน App Store มือถือ, ประกาศปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด 0.18 บาท และหุ้น 25 หุ้นเดิมได้ 1 หุ้นปันผล XD 13 ธ.ค.56 และจ่าย 27 ธ.ค.56
• MINT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 32 บาท ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ผลกระทบของการประท้วงในกทม.อยู่ในวงจำกัด ขณะที่ไตรมาส 4/56 จะยังได้ประโยชน์จากฤดูท่องเที่ยว สำหรับปีหน้าคาดมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งที่ 15% y-o-y เป็น 4.7 พันล้านบาท