น.อ.ศิธา ทิวารี ประธานกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยว่า ในงวดปี 56/57 (สิ้นสุดก.ย.57) บริษัทตั้งเป้าจะมีกำไรจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 6-7% หลังจากสนามบินดอนเมือง เทอร์มินอล 2 จะเปิดให้บริการในช่วงกลางปีหน้า
ในงวดปี 55/56 มีกำไรสุทธิ 16,347.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151.51% จากงวดปีก่อนหน้า แต่หากไม่นับรวมกำไรพิเศษจะมีกำไรสุทธิก่อนรายการฯอยู่ราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากเทียบกำไรสุทธิจากการดำเนินงานก็ถือว่างวดปี 56/57 ยังมีการเติบโตได้ดี
"กำไรสุทธิในปี 56/57 จะน้อยกว่า ปี 55/56 แต่หากมองกำไรสุทธิจากการดำเนินงานอย่างเดียวก็ยังถือว่ามีการเติบโต ซึ่งจะมาจากผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันก็ยังมีความต้องการใช้สนามบินมากกว่าขีดความสามารถในการรองรับของเที่ยวบิน ซึ่งหากมีการขยายสนามบินทั้ง 3 แห่งได้ตามเวลาที่กำหนด จะสามารถเพิ่มการรองรับจำนวนผู้โดยสารได้กว่า 20% หรือประมาณ 120 ล้านคน/ปีในปี 60"ประธานกรรมการ AOT กล่าว
ทั้งนี้ สนามบินภูเก็ต terminal 2 คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในปี 58 และสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 จะเปิดดำเนินการได้ในปี 60
ขณะที่ปัจจัยเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารในไตรมาส 1 งวดปี 56/57 ลดลงประมาณ 2% ตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมทางการเมือง โดยสายการบินจากต่างประเทศมีการยกเลิกทำการบิน อย่างไรก็ตาม ยังมีสายการบินของไทยทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศและเที่ยวบินในประเทศยังเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่อง ช่วยทำให้ยอดเที่ยวบินและผู้โดยสารไม่ลดลงมากนัก
"การเมืองกระทบแต่ว่าไม่มาก และเราสามารถทำรายได้ให้ได้ตามที่ประมาณการได้ ถึงแม้ว่าสายการบินจากต่างประเทศจะมีการยกเลิก แต่สายการบินในประเทศเองยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคนไทยเองก็ยังมีการเดินทางออกไปต่างประเทศ และยังต้องเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย สำหรับการเมืองเราก็ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อได เพราะการเมืองอยู่เหนือการควบคุม เราได้แต่คาดหวังว่าความวุ่นวายทั้งหมดจะยุติได้หลังการยุบสภา และทุกฝ่ายเข้าสู่การเลือกตั้ง ก็น่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว" น.อ.ศิธา กล่าว