(เพิ่มเติม) ก.ล.ต. คาดออกเกณฑ์ให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาระดมทุนได้ราว Q1/57

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 8, 2014 14:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. จะส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงของการลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียอย่างแท้จริง โดยจะดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น ปรับปรุงและออกหลักเกณฑ์เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากต่างประเทศ ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ และกองทุนรวม รวมทั้งศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายไทยและต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับหลักทรัพย์จากประเทศอื่นที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งคาดว่าจะออกหลักเกณฑ์ได้ในช่วงไตรมาส 1/57
"ก.ล.ต.จะเร่งผลักดันเกณฑ์การรับบริษัทจากต่างประเทศสามารถเข้ามาจดทะเบียนโดยตรงในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ (Primary Listing) คาดจะกำหนดกฏเกณฑ์และประกาศได้ภายในไตรมาส 1/57 นี้ ซึ่งขณะนี้มีบริษัทจากออสเตรเลียสนใจเข้ามาคุยแล้ว จากก่อนหน้ามีบริษัทจากจีนแต่ข้อตกลงไม่ตรงกันจึงยกเลิกไป ซึ่งหลักเกณฑ์จะเป็นตามหลักสากล โดยบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนต้องไม่เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศนั้นๆ"

ทั้งนี้ การดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ปี 2557-2559 และโครงการสำคัญในปี 2557 จำนวน 5 ด้าน จะเน้นดำเนินการต่อเนื่องเพื่อมุ่งพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแล ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน พร้อมสร้างความยั่งยืนให้แก่ตลาดทุนไทย มุ่งเสริมสร้างความรู้ทางการเงินและเครื่องมือการออมระยะยาวให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดทุน ส่งเสริมการพัฒนาวินัยของบริษัทจดทะเบียนและยกระดับการบังคับใช้กฎหมายและเพิ่มการสนับสนุนให้ตัวกลางที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนมีบทบาทเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้ลงทุนมากขึ้น และสร้างโอกาสจากการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้าน

ด้านนายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต.จะเร่งพัฒนากฎเกณฑ์กลาง เพื่ออนุญาตให้ออกและเสนอขายตราสารต่างๆ ได้หลากหลายมากขึ้น เพราะเอกชนและภาคธุรกิจจะคิดค้นตราสารใหม่ๆ แต่หลักเกณฑ์ยังไม่รองรับ ซึ่งการกำหนดเกณฑ์ผู้ออกตราสารต้องมีมาตรฐาน และกระบวนการขออนุญาตให้ผู้ออกตราสารสามารถปฏิบัติได้ เพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญและแข่งขันได้ เช่น ตราสารที่ต้องอ้างอิงกับตราสารอื่น ซึ่งเกณฑ์ต้องรองรับและเชื่อมโยงระหว่างตลาด

ในแง่การบังคับใช้กฎหมาย จะเพิ่มความเข้มงวดในกระบวนการตรวจสอบ การลงโทษให้เข้มข้นขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาบุคลากรธุรกิจหลักทรัพย์มีการกระทำที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่บันทึกเทปลูกค้า และบุคลากรบริษัทหลักทรัพย์ใช้บัญชีลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์ การกระทำเหล่านี้มีทุกปี แต่การลงโทษจะเข้มข้นขึ้น เช่น เดิมพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตจาก 1 เดือน ก็อาจจะเป็น 1 ปี ซึ่งก.ล.ต.ได้แจ้งไปยังทางบริษัท(โบรกฯ) แล้วตั้งแต่ปลายปี 56 ว่า จะเริ่มดูการกระทำตั้งแต่ต้นปีนี้ ถ้าบุคลากรธุรกิจหลักทรัพย์ทำผิดก็จะดูไปถึงตัวบริษัทด้วย ดูผู้บริหารบล.ว่ามีระบบที่ควบคุมดูแลดีพอหรือยัง ถ้าไม่เพียงพอก็จะต้องดู และจะต้องมีการปรับปรุงบังคับใช้กฏหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น วางระบบให้กระชับ การลงโทษก็จะดีขึ้น

"ถ้าบริษัทหละหลวมก็ต้องดำเนินการด้วย ปกติก.ล.ต.จะมีรอบเวลาตรวจสอบ และดูถ้าบล.ใดมีความเสี่ยงสูงก็ต้องเข้าไปดูถี่ขึ้น ซึ่งเกณฑ์เดิมก็ถือว่าเข้มข้นพอสมควร แต่ก็ยังพบอยู่เรื่อยๆ จึงต้องเพิ่มบทลงโทษให้ยาวนานขึ้น" นายวสันต์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ