ทั้งนี้ ยังมีการให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน โดยสนับสนุนการเพิ่มคุณภาพและการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนผ่านการระดมทุนและการใช้เครื่องมือทางการเงินอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เพื่อวางแนวทางสำหรับการคำนวณค่าดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมและค่าสถิติที่เกี่ยวข้องซึ่งจะเริ่มในปี 58 ในปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ mai ได้เผยแพร่ข้อมูลหลักทรัพย์ใน mai แบ่งตามประเภทกลุ่มอุตสาหกรรม (Industry group) 8 กลุ่ม โดยแสดงข้อมูลที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ mai
สำหรับปี 56 มูลค่าระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ mai สูงถึง 19,904 ล้านบาท แบ่งเป็นการระดมทุนจากบริษัทเข้าใหม่ 15 บริษัท จำนวน 8,017 ล้านบาท และการระดมทุนเพิ่มของบริษัทจดทะเบียน 45 บริษัท รวม 11,887 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าตลาดหลักทรัพย์ mai มีบทบาทสำคัญในฐานะแหล่งระดมทุน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ธุรกิจขนาดกลางที่มีศักยภาพให้เติบโตแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนจำนวนมากยังใช้ประโยชน์ตลาดทุนเพื่อให้ธุรกิจเติบโต ผ่านการใช้เครื่องมือทางการเงิน โดยปีที่ผ่านมา 36 บริษัทใช้เครื่องมือทางการเงินรวม 51 เครื่องมือ ทั้งการจ่ายหุ้นปันผล การออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) และการให้ผลประโยชน์ตอบแทนพนักงาน
นายชนิต กล่าวว่า ในปี 56 ยังเป็นปีที่ตลาดหลักทรัพย์ mai ประสบความสำเร็จโดยทำสถิติสูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งในด้านต่างๆ ได้แก่ 1) จำนวนบริษัทจดทะเบียนที่เข้าใหม่ 15 บริษัท 2) มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) 177,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อนหน้า โดยหุ้นเข้าใหม่มีสัดส่วน market capitalization 28% ของทั้งตลาดหลักทรัพย์ mai 3) มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 2,259 ล้านบาท 4) จำนวนรายการเฉลี่ยต่อวัน 36,676 รายการ
ปัจจุบัน มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai 95 บริษัท