การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบสลับกับแดนบวก โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,283.76 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,244.14 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 529 หลักทรัพย์ ลดลง 182 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 146 หลักทรัพย์
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ขึ้นมาในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค รับปัจจัยจากที่นายกรัฐมนตรีนัดหลายฝ่ายหารือในวันที่ 15 ม.ค.นี้ เกี่ยวกับข้อเสนอเลื่อนการเลือกตั้ง ประกอบกับมีแรงเก็งกำไรเข้ามาที่ตลาดกลุ่ม TIP ทั้งอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็เป็นหนึ่งในกลุ่มจึงมีแรงซื้อเข้ามาด้วย
"ตลาดมีการรีบาวด์ขึ้นมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดคาดที่สามารถรีบาวน์ขึ้นมาท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมือง อาจจะเป็นไปได้ที่มีข่าวการนัดประชุมกันของหลายฝ่ายของนายกรัฐมนตรีที่บอกว่าจะคุยกันในเรื่องของการเลื่อนการเลือกตั้ง ประกอบกับวันนี้จริง ๆ ก็ได้อานิสงค์จากตลาดต่างประเทศด้วย ที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่บวก 3% และฟิลิปปินส์บวกมา 1.7% ซึ่งน่าจะเป็น 2 ประเด็นนี้ที่ทำให้ตลาดมีการรีบาวน์ปรับขึ้นมาได้"นายกวี กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(14 ม.ค.)นายกวี กล่าวว่า ตลาดฯได้เข้ามาอยู่ในกรอบแนวต้านสำคัญที่ 1,280-1,300 จุด มองว่าควรลดพอร์ตการเก็งกำไรไปก่อน แล้วค่อยกลับเข้ามาซื้อใหม่ในช่วงดัชนีปรับฐาน เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศยังไม่มีความชัดเจน รวมถึงการรีบาวด์ขึ้นมาครั้งนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยง ซึ่งมองว่าการเข้ามาซื้อของนักลงทุนต่างประเทศยังไม่ใช่การลงทุนในระยะยาว สุดท้ายแล้วตลาดหุ้นน่าจะกลับมากังวลการปรับลดขนาด QE จากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น
พร้อมให้แนวรับที่ 1,240-1,260 จุด และแนวต้าน 1,292 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,318.52 ล้านบาท ปิดที่ 209.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,075.21 ล้านบาท ปิดที่ 164.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,261.95 ล้านบาท ปิดที่ 181.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,218.19 ล้านบาท ปิดที่ 6.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,201.93 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท