สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 56,957 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 36,122 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 63.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 15,747 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 27.6% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,712 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB196A และ LB155A (รุ่นอายุ 3.4 ปี, 5.4 ปี และ 1.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 12,411 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (RG146A) มูลค่า 191.2 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY142B) มูลค่า 155.0 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) (BTG16NA) มูลค่า 142.9 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 489.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28.6% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 8,475 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,010 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,058 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.21% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.38% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.02%
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับลดลงเล็กน้อย ในทุกช่วงอายุตราสาร ประมาณ 1 bp. โดยพันธบัตร ธปท.รุ่นอายุ 3 ปี ที่ประมูลวันนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนถึง 3.07 เท่าของวงเงินประมูล ด้านนักลงทุนสถาบันในประเทศยังคงมีแรงซื้อในพันธบัตรระยะกลางถึงยาว สำหรับด้านนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 1,058 ล้านบาท