สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB155A และ LB17OA (รุ่นอายุ 3.3 ปี, 1.3 ปี และ 3.7 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 6,525 ล้านบาท หรือคิดเป็น 68% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT155A) มูลค่า 282.5 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของธนาคาร เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK144A) มูลค่า 177.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บ้านปู (BANPU214A) มูลค่า 157.8 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 618.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41.0% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 11,712 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 11,003 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 58 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.24% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.36% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve นิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดตัวเลข Jobless claims ที่ประกาศออกมา ปรับลดลง 20,000 ราย สู่ระดับ 331,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้งตัวเลขยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวซึ่งลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ 4.7153 แสนล้านดอลลาร์ และ การได้ข้อยุติเกี่ยวกับการขยายเพดานก่อหนี้ฯ ของสหรัฐฯ ส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 58 ล้านบาท