โบรกฯแนะ"ซื้อ-ถือ"หุ้นบมจ.กรุงเทพประกันชีวิต(BLA)คาดการเติบโตของกำไรสุทธิปี 57-58 ที่ 11.8% และ 14.8% yoy เชื่อเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับลงระยะยาว แม้มองผู้บริหารตั้งเป้าเบี้ยประกันรับรวมเติบโต 24% เป็นไปในเชิงรุกมากเกินไป แต่เชื่อว่าเบี้ยประกันภัยรับยังเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เป็นผลจากการปรัลบกลยุทธของบริษัทเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในปีนี้
โบรกฯ คำแนะนำ มูลค่าเหมาะสม(บาท) บล.เอเซียพลัส ซื้อ 81 บล.บัวหลวง ซื้อ 75 บล.ฟินันเซีย ไซรัส ถือ 68 บล.ทิสโก้ ถือ 67น.ส.สุนันทา วสะภิญโญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ปรับกำไรและราคาเป้าหมายลงเป็น 68 บาท จาก 70 บาท แต่ขณะนี้ upside เหลือ 5-6% ต่ำกว่า 10% จึงแนะนำแค่ถือ
ทั้งนี้ ปี 57 คาดเบี้ยประกันภัยรับรวมน่าจะเติบโต 14% yoy คาดการณ์ต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งไว้ 24% เพราะเชื่อว่าเป้าหมายของบริษัทจะเป็นเชิงรุกมากเกินไป ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จึงประมาณการเท่านี้ก่อน หากทำได้มากกว่านี้ก็ถือเป็น upside
ส่วนกำไรในปี 57 คาดการณ์ที่ 5,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% yoy แต่เป็นการปรับลดกำไรลงมาจากเดิมที่คาดไว้ในระดับ 5,528 ล้านบาท หลักๆ มาจากภาวะเศรษฐกิจจึงมองแนวโน้มเบี้ยประกันรับของอุตฯที่ชะลอตัว ซึ่งจะต้องดูผลงานบริษัทในครึ่งแรกประกอบด้วย
ด้าน บล.บัวหลวง ระบุว่า BLA รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/56 ที่ 905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY แต่ลดลง 18% QoQ ผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าประมาณการของเรา 26% และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 18% เนื่องจากการจ่ายคืนผลประโยชน์ให้แก่ผู้กรมธรรม์ที่สูงกว่าคาด เบี้ยประกันรวมในไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 8% YoY (ทรงตัว QoQ) อยู่ที่ 8.4 พันล้านบาท ยังคงประมาณการกำไรปี 57 ไว้เท่าเดิมที่ 5.4 พันล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่า BLA จะทำกำไรเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 1/57 และปี 57 หนุนโดยนโยบายประกันชีวิตในระยะสั้นและระยะกลางมากขึ้น (รวมถึงนโยบายการประกันชีวิตที่ชำระเบี้ยครั้งเดียว) และเครดิตไลฟ์ ซึ่งทั้ง 2 ชนิดอาจต้องใช้นโยบายประกันสำรองสำหรับกรมธรรม์มากกว่าผลิตภัณฑ์ปกติ แต่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มชดเชยผลกระทบของกันสำรองฯที่เพิ่มขึ้นในปีนี้
ดังนั้น เราคงประมาณการกำไรที่ 5.4 พันล้านบาทสำหรับปี 57 เพิ่มขึ้น 23.3% YoY และ 5.8 พันล้านบาทสำหรับปี 58 เพิ่มขึ้น 7.4% YoY
หลังจากเบี้ยประกันปีแรกขยายตัว 20% YoY สำหรับปี 56 (หนุนโดยประกันภัยระยะยาว) และเบี้ยประกันรวมเติบโต 13% YoY ทาง BLA ได้เปลี่ยนมามุ่งเน้นนโยบายระยะกลาง (Gain 1st 263 และ Gain 1st 245) แทนผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตลอดชีพ การเปลี่ยนกลยุทธฺมีเป้าหมายเพื่อที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดปี 57 ของบริษัทหลังจากส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทรวมปี 56 ลดลงเป็น 8.8% จาก 8.9% ในปี 55
บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกให้เติบโตถึง 47% สำหรับปี 57 เราตั้งสมมติฐานเบี้ยประกันปีแรกสำหรับปี 57 ขยายตัวอย่างอนุรักษ์นิยมที่ 20% ในประมาณการของเรา (รวมผลิตภัณฑ์ที่ชำระเบี้ยประกันครั้งเดียว) หาก BLA สามารถบรรลุเป้าหมายเบี้ยประกันปีแรกของปี 57 จะส่งผลให้มีแนวโน้มอัพไซด์ต่อประมาณการในปีนี้และปีหน้า
ขณะที่ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส เชื่อว่า BLA เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่จะเข้าสะสมหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ดีในระยะยาวตามการเติบโตของ GDP และธุรกิจประกันชีวิตในประเทศที่ยังมีโอกาสพัฒนาไปอีกไกล โดย Fair value ปี 57 คือ 81 บาท
ทีมผู้บริหาร BLA แถลงวิสัยทัศน์ของธุรกิจในระยะ 5 ปีข้างหน้า ทั้งธุรกิจประกันชีวิต และธุรกิจการลงทุน โดยในส่วนของธุรกิจประกันชีวิต เชื่อว่า BLA ได้ตระหนักถึงจุดอ่อนเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรม ทำให้แนวโน้มจะเน้นไปที่การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพื่อผลักดันส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็นอันดับ 3 จากปัจจุบันอยู่อันดับ 5 ซึ่งนอกเหนือจากการออกผลิตภัณฑ์ระยะสั้น ยังจะเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพของช่องทางขายทั้ง Bancassurance และตัวแทน เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าและตระหนักถึง brand ของ BLA มากขึ้น ด้านธุรกิจการลงทุนยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้มีประสิทธิภาพซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยกระจายการลงทุนไปสู่ Property fund,Infrastructure fund และหุ้นกู้ต่างประเทศ
สำหรับแผนระยะสั้นปี 57 ที่เป็นไปในเชิงรุกนั้นเนื่องจากเป็นเป้าหมายที่กำหนดไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดผลกระทบด้านการเมือง แต่ก็ยอมรับว่าหากสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อ ก็ไม่น่าจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตรับรวมที่ตั้งไว้ 24% yoy สูงกว่าคาดการณ์ของการเติบโตของอุตฯที่ต่ำกว่า 15% yoy จากการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกถึง 47% yoy ซึ่งเน้นการขายผ่านช่องทาง Bancassurance ขณะที่ผลิตภัณฑ์ประเภท Whole life และ Credit life ยังคงให้ความสำคัญต่อเนื่อง โดย BLA ตั้งเป้าการเติบโตของเบี้ยประกัน Credit life ปี 57 เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 56 เนื่องจากฐานที่ยังต่ำมาก
ประมาณการผลการดำเนินงานปี 57-58 โดยคาดการเติบโตของกำไรสุทธิ 11.8% yoy และ 14.8% yoy ตามลำดับ ภายใต้สมมติฐานการเติบโตของธุรกิจหลักที่เป็นไปอย่างระมัดระวังมากกว่าของบริษัทฯ โดยคาดการณ์การเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมปี 2557 เพียง 15% yoy ซึ่งเป็นการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกเท่ากับ 30% yoy พร้อมคาดการณ์ ROI ปี 2557 ลดลงเหลือ 5.08% สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดทุนที่ยังไม่สดใส
ส่วน บล.ทิสโก้ ปรับประมาณการปี 56-58F ของ BLA ลง 6% เพื่อสะท้อนความเสี่ยงทางการเมืองและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น ในระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ และในเดือนก.พ.ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากว่า 10% มี P/EV 1.8 เท่า และ P/VNB 15 เท่า เปลี่ยนคำแนะนำเป็น"ถือ"จากอัพไซด์ที่ต่ำหลังจากลดมูลค่าที่เหมาะสมเป็น 67 บาท
คาดผลประกอบการ 1Q57 ยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลงนับจากต้นปี และไม่มีการบันทึกกลับการตั้งสำรองจะทำให้อัตรากำไรของประกันลดลง รวมถึงแนวโน้มการลงทุนที่ยังไม่ฟื้นตัว มองว่าการขึ้นดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือน – 3 ปีข้างหน้าจะช่วยหนุนการดำเนินงานของ BLA แต่การเมืองมีแนวโน้มที่ยืดเยื้อขึ้น