PPM คาดรายได้ปี 57 ที่ 1.6-1.8 พันลบ.จาก 1.57 พันลบ.ในปี 56

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 26, 2014 10:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชำนาญ พรพิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรพรหมเม็ททอล(PPM)เปิดเผยแผนดำเนินธุรกิจในปี 57 ว่า บริษัทประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ปีนี้ ที่ระดับ 1,600-1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.04-14.80% จากปี 56 โดยมองว่าธุรกิจยังคงมีแนวโน้มอัตราการขยายตัวที่น้อยกว่าปกติ โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันจะมีปัญหาทางการเมือง ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น ซึ่งมีผลกับการขยายตัวอย่างสูง

แต่อย่างไรก็ดี ทางบริษัทฯ คาดว่าจะได้รับอานิสงค์จากผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมในต่างประเทศที่ย้ายฐานผลิตเข้ามาในประเทศ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอุตสาหกรรม อาทิ ทองแดงและทองเหลืองชนิดแผ่นและม้วน, ท่อทองเหลือง และอุปกรณ์, อะลูมิเนียมชนิดม้วนเกรดพิเศษเพื่ออุตสาหกรรมหลังคา ฯลฯ และผลิตภัณฑ์วัสดุเพื่อใช้ในการก่อสร้าง อาทิ ฉนวนยางป้องกันความร้อน, อะลูมิเนียมชีททำหลังคารีดลอน ฯลฯ ยังคงมีดีมานด์ความต้องการผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

ด้านแผนในการขยายงานโดยเฉพาะการให้บริการพื้นที่เช่าศูนย์การค้าที่อำเภอศาลายา หลังมหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้ “The Salaya" ซึ่งเป็น Education Hub บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ซึ่งเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการแล้ว โดยบริษัทฯ จะมีรายได้จากพื้นที่เช่าและการให้บริการเข้ามาภายในปีนี้กว่า 40 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากการให้บริการที่จอดรถในสถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link เข้ามาในปีนี้กว่า 10 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานในรอบปี 56 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,568.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 55 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,451.99 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 48.03 ล้านบาท ลดลง 18.73% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59.09 ล้านบาท สาเหตุที่อัตรากำไรลดลงเนื่องจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวจากระดับ 31 บาท มาที่ 33 บาท แต่หากพิจารณาจากอัตรากำไรขั้นต้น (Gross profit) ซึ่งเป็นรายได้จากการขายหักต้นทุนขาย จะเห็นได้ว่าบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 203.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.98% เมื่อเทียบจากปี 55 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 164.38 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทโดยพิจารณาจากอัตราการขยายตัวจากยอดขาย และการขยายตัวของการทำกำไรขั้นต้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านั้น จะเห็นได้ว่า บริษัทมีการทำกำไรจากยอดขายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายช่องทางการตลาด โดยเน้นเจาะฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ประกอบกับ บริษัทมีการบริหารจัดการด้านต้นทุนวัตถุดิบ พร้อมทั้งมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดรับกับการแข่งขันทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง

“งบผลการดำเนินงานปี 56 บริษัทฯ มียอดขายที่เพิ่มขึ้น 7.99% เมื่อเทียบกับปี 55 ขณะที่กำไรลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 18.73% ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนในปี 56 ที่ 32.81 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าบริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ที่ 11.9 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่มีผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นประมาณ 44.77 ล้านบาท และผลจากค่าเงินที่อ่อนค่าลงในช่วงไตรมาส 4/56 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวเช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่ดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกัน" นายชำนาญกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ