SRICHA เผยมี backlog ราว 3 พันลบ.ทยอยรับรู้ฯปีนี้ 2 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 27, 2014 14:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น(SRICHA)กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีปริมาณงานในมือมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 2,000 ล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้รายได้อีกประมาณ 1,000 ล้านบาทในปีต่อไป

ทั้งนี้ โครงการที่มีปริมาณงานในมือแล้วเฉลี่ยมูลค่าโครงการประมาณ 400-500 ล้านบาท ได้แก่ 1.การสั่งจ้างงานเพิ่มเติมจากบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) 2.การสั่งงานจาก Hyundai Engineering ซึ่งเป็นงานประกอบและติดตั้งงานโครงเหล็ก ระบบท่อ และติดตั้งเครื่องจักรในโครงการ Linear Alkyl Benzene Project ที่จะเริ่มงานในเดือนหน้านี้ 3.งานบำรุงรักษา (Maintenance) ระบบท่อเหมืองแร่ในประเทศมาดากัสการ์ที่เป็นงานต่อเนื่องอีกเช่นกัน และงานจากบริษัทย่อย

นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการยื่นประมูลงานที่เน้นความชำนาญเฉพาะด้านโดยหลีกเลี่ยงงานที่มีการแข่งขันทางด้านราคามูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท เช่น งานโครงเหล็ก (Module) โรงไฟฟ้าในประเทศเม็กซิโก งานโครงเหล็กของโรงเผาขยะและโรงไฟฟ้าในประเทศพม่า งานโรงไฟฟ้าของผู้ผลิตเอกชนรายใหญ่ (IPP) และอีกสองโครงการเป็นงานภายในประเทศ ซึ่งบริษัทคาดว่า การรับงานใหม่เพิ่มเติมจะทำให้ปริมาณงานในมือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ และบางส่วนน่าจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ภายในปีนี้ โดยคาดว่าบริษัทจะเริ่มงานเต็มอัตรากำลังการผลิตตามที่ได้รับการว่าจ้างได้ประมาณ 80-90% ในช่วงไตรมาส 3/57

ด้านนายกฤษฎา โพธิสมภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ SRICHA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556 มีผลประกอบการที่ดีมีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้รับการสั่งจ้างงานจากผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีแผนการขยายกำลังการผลิตต่อเนื่องทั้งโครงการโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานปิโตรเคมีและจากการที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 2,694.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 547.98 ล้านบาท จาก 2,146.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 25.52% เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้หลักการรับเหมาก่อสร้าง การให้บริการ และรายได้อื่นๆ กำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เท่ากับ 1,171 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ระดับ 1,197 ล้านบาท กำไรเบ็ดเสร็จ 961 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 1,041 ล้านบาท ในอัตรา 7.76% เนื่องจากต้นทุนค่าแรงในงานก่อสร้างที่เร่งตัวขึ้น และบริษัทมีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 3.01 บาทต่อหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ