นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ประธานกรรมการ PCSGH เปิดเผยว่า PCSGH จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 389 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25.18 ของจำนวนหุ้นสามัญเรียกชำระแล้ว ทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ ส่งผลให้มีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 1,545 ล้านบาท และใช้ชื่อ “PCSGH" ในการซื้อขายในหมวดธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ สำหรับการรับจ้างผลิตทั้งจากลูกค้ารายเก่าและรายใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และรองรับการขยายตัวสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังก้าวเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเต็มตัวในปี 58
โดยมี บล.บัวหลวง เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน พร้อมทั้งได้แต่งตั้ง บล.บัวหลวง และบล.ไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการร่วมการจัดจำหน่ายและรับประกัน การจำหน่ายในการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้
นายศิริพงษ์ รุ่งโรจน์กิติยศ ผู้ก่อตั้ง และรองประธานกรรมการ PCSGH กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจที่มีศักยภาพสามารถทำรายได้และกำไร อย่างสม่ำเสมอโดยเน้นการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ให้อัตรากำไรสูงด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า วงเงินลงทุนรวมกันประมาณ 1,900 ล้านบาท เช่น โครงการผลิต Differential Case เพื่อป้อนให้กับ OEM Supplier Tier 1 รายหนึ่งในประเทศไทยซึ่งเป็นลูกค้ารายใหม่ โดยมีกำลังการผลิต เป้าหมายที่ประมาณ 300,000 ชิ้นต่อปี โครงการผลิต Camshaft Cover เพื่อป้อนให้กับบริษัทผู้ผลิต รถยนต์ในยุโรป โดยมีกำลังการผลิตเป้าหมายที่ประมาณ 300,000 ชิ้นต่อปี โครงการผลิต Camshaft Assembly โดยมีกำลังการผลิตเป้าหมายที่ประมาณ 300,000 ชิ้นต่อปี และ โครงการเพิ่มกำลังการผลิต Gear โดยมีกำลังการผลิตเป้าหมายที่ประมาณ 1,440,000 ชิ้นต่อปี เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตและ เพิ่มความแม่นยำของชิ้นงานที่จะใช้กับเครื่องยนต์มาตรฐานไอเสียยูโร 5 ขึ้นไปในอนาคต เป็นต้น
“บริษัทมีที่ตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งน่าจะเป็นการสร้างความตื่นตัวให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในต่างจังหวัด ให้ความสนใจที่จะใช้ตลาดทุนเป็นแหล่ง ระดมเงินทุนเพื่อขยายกิจการในระยะยาวรวมทั้งเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทแก่ลูกค้าและประชาชน ตลอดจนเป็นการยกระดับการบริหารงานให้ได้มาตรฐานสากลโปร่งใส และน่าเชื่อถือภายใต้ การบริหารงาน ที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น รวมทั้งนำไปสู่ความภาคภูมิใจให้กับคนในท้องถิ่นอีกด้วย โดยบริษัทเตรียมขยาย ธุรกิจเพื่อรองรับการเปิดตลาดเสรีอาเซียน หรือ AEC ทั้งในกลุ่มผลิตรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ขนาดใหญ่ (Big Bikes) รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในกลุ่ม Tier-1 ซึ่งจะขยายฐานการผลิตในอาเซียน" นายศิริพงษ์ กล่าว
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า หุ้นไอพีโอ PCSGH ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยมีการจัดสรรหุ้นร้อยละ 49 ของหุ้นทั้งหมดให้แก่นักลงทุนสถาบัน เนื่องจากเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่มีเทคโนโลยีระดับสูง และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเป็นพิเศษมีคู่แข่งน้อยรายและมีผลงานที่ดี ทำให้เป็นที่ไว้วางใจ ของผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกจำนวนมากที่ให้งานผลิตชิ้นส่วน“พาวเวอร์เทรน"อย่างต่อเนื่อง ตลอดมา โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีผลประกอบการที่เติบโตโดดเด่นสูงสุด ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน รวมทั้งยังมีนโยบายในการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ และยังเป็นหนึ่งในบริษัท ผู้ประกอบการด้านผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนมากกว่า 1 พันล้านบาท ที่เข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์อีกด้วย
ด้าน ม.ล. ทองมกุฏ ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ขายหุ้นของ PCSGH ได้รับความสนใจจองซื้อหุ้นเข้ามาเป็นจำนวนมากทั้งจากนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะจากนักลงทุนที่ต้องการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีผลประกอบการที่ดี สามารถสร้าง ผลตอบแทนทั้งในแง่ของมูลค่าและเงินปันผลให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี สามารถจองซื้อหุ้นได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ บล.บัวหลวง บล.ไทยพาณิชย์ บล.ทรินีตี้ บล.เอเซียพลัส บล.กสิกรไทย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) และบล.ทิสโก้
อนึ่ง PCSGH มีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 1,545 ล้านบาท เป็น 1 ในผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของรถยนต์ระดับ Tier-1 ที่สำคัญของไทย มีเทคโนโลยีและ โนว์ฮาวการผลิตระดับสูง มีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีฐานลูกค้าที่มั่นคงเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรปมากว่า 30 ปี อาทิ Toyota Isuzu Ford Mazda General Motor Mitsubishi Renault Nissan รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนระดับ Tier-1 รายใหญ่ อาทิ Continental Kayaba
บริษัทฯมีการบริหารงานในลักษณะ บริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ที่มีการลงทุน และถือหุ้น 100% ในบริษัทย่อย 3 บริษัท ได้แก่ 1. บริษัท พี.ซี.เอส. พรีซิชั่น เวิร์ค จำกัด 2. บริษัท พี.ซี.เอส. ได คาสติ้ง จำกัด และ 3. บริษัท พี.ซี.เอส. ฟอร์จจิ้ง จำกัด