สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 82,908 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 62,684 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 75.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 16,616 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.0% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 732 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB145B, LB176A และ LB196A (รุ่นอายุ 0.2 ปี, 3.3 ปี และ 5.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 12,627 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT149A) มูลค่า 120.5 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (HEMRAJ155A) มูลค่า 83.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL145A) มูลค่า 61.3 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 265.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36.3% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 7,556 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,420 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,632 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.19% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.21% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับลง ในตราสารอายุไม่เกิน 10 ปี ประมาณ 1 bp. โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าการประชุม กนง. กลางสัปดาห์หน้า อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ด้านปัจจัยต่างประเทศ ล่าสุดตัวเลข ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ปรับตัวลดลง 26,000 ราย มาอยู่ที่ 323,000 ราย และตลาดยังคงติดตามตัวเลข Non-farm payrolls ที่จะประกาศคืนนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อในพันธบัตรระยะสั้น ยอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 4,632 ล้านบาท