(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลงเล็กน้อยก่อนขยับขึ้น เล็งแรงหนุนจาก Window Dressing

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 25, 2014 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงเล็กน้อย และจะขยับขึ้นได้ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเมื่อวานนี้ได้ซื้อสุทธิ และคงจะได้รับแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ด้วย

สำหรับปัจจัยการเมืองคงจะต้องติดตามเสาร์นี้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะลงสมัครเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าไม่ลงก็มีโอกาสที่การเมืองจะยืดเยื้อไปถึงไตรมาส 3/57 ซึ่งก็คิดว่านานเกินไป และจะสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีโอกาสที่แบงก์ชาติ, สศค. รวมถึงบริษัทจดทะเบียนอาจจะลดเป้าประมาณการลงได้ เพราะสมมติฐานที่ตั้งไว้มองว่าการเมืองจะคลี่คลายในกลางปีนี้

อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ตลาดฯคงจะแกว่งรอความชัดเจน ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ หลังจากที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ภาคการผลิตงวดเดือนมี.ค.ของจีน, สหรัฐฯ และยุโรป ออกมาไม่ดี

พร้อมให้แนวรับ 1,340 จุด แนวต้าน 1,365 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(24 มี.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,276.69 จุด ลดลง 26.08 จุด (-0.16%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,857.44 จุด ลดลง 9.08 จุด(-0.49%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,226.39 จุด ลดลง 50.40 จุด(-1.18%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 73.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 72.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 16.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 4.65 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 13.07 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 6.99 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.96 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 15.94 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(24 มี.ค.)ที่ 1,349.90 จุด ลดลง 10.60 จุด(-0.78%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 918.78 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 มี.ค.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(24 มี.ค.)ที่ 99.6 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 14 เซนต์หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(24 มี.ค.)ที่ 5.99 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.45/47 คาดแกว่งในกรอบ 32.40-32.50 ขาดปัจจัยใหม่หนุน
  • ส.อ.ท.ระบุ การเมืองฉุดดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมต่ำสุดรอบ 56 เดือน คาดจีดีพีปีนี้โตไม่ถึง 3% ขณะที่การส่งออกยังต้องลุ้น ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เผยยอดขาย ก.พ.ลดลงต่อเนื่อง รับผลกระทบเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาการเมืองรถคันแรกโตโยต้าชี้ยอดขายร่วง 44% มั่นใจ มี.ค.ดีขึ้น หลังรถใหม่เปิดตัวชิงตลาดรับฤดูขาย กลุ่มอุตฯ เผยตลาดต่างประเทศยังโต ตั้งเป้าผลิตเพื่อส่งออกปีนี้ เพิ่ม 7%
  • คลังเดินหน้าระดมเงินผ่านตลาดตราสารหนี้กว่าแสนล้านบาท เม.ย.-มิ.ย.นี้ ทั้งพันธบัตรเพื่อยืดหนี้ 5 รัฐวิสาหกิจรวม 2 หมื่นล้านบาท และออกบอนด์ออมทรัพย์ 5 หมื่นล้านบาท ไถ่ถอนบอนด์ออมทรัพย์เดิมที่ครบชำระหนี้ รวมถึงออกพีเอ็นและตั๋วเงินคลัง ที่เปิดประมูลสัปดาห์ๆ ละ 1.5-2 หมื่นล้านบาท มั่นใจนักลงทุนตอบรับดี โดยเฉพาะช่วงดอกเบี้ยขาลง
  • นายกสมาคมคอนโด ประเมินตลาดคอนโด ไตรมาสแรกปีนี้ ยอดขายหายไปกว่า 30% ระบุผู้ซื้อเก็งกำไรหายเกลี้ยงจากตลาด ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมีการชะลอตัว ห่วงปัญหา ทิ้งดาวน์ต่างจังหวัดเพิ่ม คาดไตรมาส 2 ตลาดก็ยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่การเปิดตัวโครงการใหม่คอนโดและแนวราบช่วง 2 เดือนครึ่งลดฮวบ ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ช่วงเดือนม.ค. ทั้งคอนโดและแนวราบ ลดลง 45% จากเดือนธ.ค. 2556
  • นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ในเดือน ก.พ. อยู่ที่ 74 แสนคัน ลดลงร่วม 24.3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งรถยนต์นั่งลดลง 33.21% รถยนต์โดยสารลดลง 38.89% รถกระบะลดลง 15.24% ขณะที่รถบรรทุกกลายเป็นกลุ่มที่ลดลงมากที่สุดถึง 59.27% สะท้อนถึงการลดลงชัดเจนของภาวะเศรษฐกิจโดยเฉพาะจากการลงทุนภาครัฐ
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 8 แห่ง ล่าสุดเดือนม.ค. 2557 พบว่า มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จำนวน 2.02 แสนล้านบาทหรือ 5.34% ของสินเชื่อทั้งระบบเพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค. 2556 ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยมีการตั้งสำรองถึง 149.5% ของเอ็นพีแอลทั้งหมด
  • ธปท.เผยบอร์ดกนง.สั่งติดตามเสถียรภาพภาคครัวเรือนอย่างใกล้ชิด หลังเศรษฐกิจชะลอตัวเห็นสัญญาณความสามารถชำระหนี้ด้อยลง พบสินเชื่ออุปโภคบริโภคค้างชำระเกิน 1 เดือนขยับเป็น 5.7% ณ สิ้นไตรมาส 4 ของปี 56 จากไตรมาสก่อน 5.4% เป็นการเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นสำคัญ อีกทั้งสภาพคล่องภาคครัวเรือนลดลง ชี้หนี้ครัวเรือนสูงกว่าการขยายตัวเศรษฐกิจ ผลตลาดสินเชื่ออุปโภคบริโภคแข่งดุ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • LIT(บมจ.ลีซ อิท)เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(MAI)วันนี้วันแรก บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเหมาะสม 2.70 บาท อิง PE 11.25 เท่า และเป็นหุ้นปันผลที่น่าสนใจโดยคาดจ่าย 0.15 บาท/หุ้นในปี 2014 โดยคาดการเติบโตของสินเชื่อของ LIT ในปี 2014-15 ที่ 16.7% และ 13.8% ตามลำดับ ขณะที่ลูกหนี้ส่วนใหญ่ (80%) อยู่ในภาครัฐ ความเสี่ยง NPL จึงต่ำ สำหรับกำไรสุทธิปี 2014 คาดเพิ่มขึ้น 44% Y-Y โดยคาด Net profit margin ขยับเป็น 36% จาก 31% ในปี 2013 จากการขยายตัวของธุรกิจที่มีอัตราค่าตอบแทนสูง (เช่นธุรกิจจัดหาหนังสือค้ำประกันซอง และธุรกิจสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ)
  • THCOM(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 43 บาท จากแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 1Q57 ที่คาดว่าบริษัทจะมีกำไรปกติราว 289 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY แต่ลดลง 18% QoQ ส่งผลให้ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงมาจนมี Potential Upside เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของเราราว 5% แล้ว ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานจากธุรกิจปกติของบริษัทยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยที่เราประเมินว่าบริษัทจะมีกำไรปกติปี 2557 ราว 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY ส่วนปี 2558-2559 คาดธุรกิจปกติมีกำไรเติบโต 25% และ 30% ตามลำดับ
  • JAS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้าไม่รวม IFF 11.20 บาท มองการถอยตัวลงระยะสั้นของราคาหุ้นจากประเด็น IFF จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้ออีกครั้ง บนพื้นฐานซึ่งยังไม่รวม IFF ไว้ในประมาณการที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยที่ในกรณีดังกล่าวเราประเมินกำไรปกติในปี 2557 ไว้ที่ 3.29 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY และปัจจุบันบริษัทมีฐานะการเงินที่ดีจากเงินสดเพิ่มขึ้น และมีอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net D/E) เพียง 0.1 เท่า ขณะที่มองว่าประเด็น IFF ถือเป็น Upside ของราคาหุ้นมากกว่า โดยที่ในเบื้องต้นประเมินมูลค่าต่อหุ้นเพิ่มจาก IFF ไว้ที่ 0.90 บาท
  • DELTA(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 63 บาท ผลประกอบการปี 2557 มีแนวโน้มเติบโตต่อ ทั้งจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยหลักมาจาก Telecom Power System ในอินเดีย ที่มีการขยายโครงข่ายการสื่อสาร 4G LTE และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ODM ซึ่งการปรับ Product Mixed จะช่วยหนุนอัตรากำไรให้อยู่ในระดับสูง 26-27% ได้ และยังมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง พร้อมวิเคราะห์ความอ่อนไหวของค่าเงินบาท การอ่อนค่าทุก 1 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของ DELTA เพิ่มขึ้น 1% ซึ่งเงินบาทเฉลี่ย 1Q57 อยู่ในภาวะอ่อนค่าเมื่อเทียบเฉลี่ย 4Q56 ทำให้คาดการณ์ผลประกอบการ 1Q57 จะออกมาดี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ