ในปีนี้ บี.กริม.มีแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 4 โรงใน 3 นิมอุตสาหกรรม ได้แก่ นิคมฯ อมตะนคร, นิคมฯอมตะซิตี้ ระยอง และนิคมฯ เหมราช ทำให้ในปีนี้ บี.กริม.เพาว์เวอร์ คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปี 56
อนึ่งในปี 56 กลุ่มธุรกิจด้านพลังงานมีรายได้ 1.4 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทจะขยายกำลังการผลิตจาก 733 เมกะวัตต์ เป็น 2 พันเมกะวัตต์ ภายในปี 62 พร้อมกันนี้ บริษัทยังมองหาช่องทางการลงทุนในการเพิ่มฐานการผลิตไฟฟ้าจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น พม่า และมาเลเซีย
ขณะที่บริษัท มีแผนที่จะเปิดธุรกกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน ในฐานะที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 59
"บี.กริม.เล็งเห็นโอกาสขยายตัวธุรกิจใหม่และการลงทุนในต่างประเทศ ในด้านพลังงาน เครื่องปรับอากาศ สุขภาพ และวิสวกรรมภายในกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ พม่า มาเลเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น และสิงคโปร์" นายฮาราลด์ กล่าว
นายฮาราลด์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ใช้เงินลงทุน 2 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เน้นธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งบี.กริม.มีแผนจะได้รับสัมปทานใบอนุญาตธุรกิจไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศให้ครบ 5,000 เมกะวัตต์ในปี 2562 เพื่อในอีก 14 ปีข้างหน้าจะมียอดขายรวมที่ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งถ้ามีกำลังการผลิตไฟฟ้าครบ 5,000 เมกะวัตต์ จะมีรายได้จากไฟฟ้า 1 แสนล้านบาท/ปี ส่วนอีก 5 หมื่นล้านบาทเป็นอื่นๆ เช่น ระบบส่ง แอร์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าต้องใช้เงินลงทุนอีกกว่า 1 แสนล้านบาทเพื่อกำลังการผลิตครบ 5,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีอยู่ 2,000 เมกะวัตต์ ต้องหาเพิ่มอีก 3,000 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะอยู่ระหว่างศึกษาที่มาของแหล่งเงินทุน โดยพิจารณาทั้งการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุน การหา strategic partner การเพิ่มขนาด Infrastructure Fund อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์หรือการออกอินฟราฯใหม่ การออกหุ้นกู้ ซึ่งศึกษาทุกแนวทาง ต้องตัดสินใจใน 2 ปีนี้ แต่เร็วๆนี้ยังไม่จำเป็น
"เงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างศึกษาจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ปีไหนก็ไม่ทราบ จะเอา Infra อีกมั้ย ออกบอนด์ หา strategic partner บางครั้งอาจต้องผสม แต่ไม่ใช่ปีนี้ ในอีก 2 ปีค่อยตัดสินใจ"
ในส่วนของธุรกิจไฟฟ้าต่างประเทศศึกษาทั้งในมาเลย์ ดูถ่านหิน พลังงานแสงอาทิตย์ ในพม่า ที่มัณฑะเลย์ 260 เมกะวัตต์ ที่ญี่ปุ่นกำลังดูอยู่ 2 โครงการ โครงการละ 40 เมกะวัตต์เป็นโซล่าเซลล์ ในลาวมีผู้เสนอโครงการพลังงานน้ำมาให้พิจารณา ที่อินโดฯดูถ่านหิน และในยุโรปก็มีคนส่งข้อเสนอมาให้เรื่อยๆ ส่วนในไทยเพิ่งทำข้อตกลงพลังงานลม 45 เมกะวัตต์ ที่จ.มุกดาหาร เป็นการร่วมทุนบี.กริม.ถือ หุ้น 70% บ.เดนมาร์ก 30% โครงการนี้ต้องใช้เวลาเพราะสายส่งยังไม่พร้อม
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/57 ยังเป็นไปตามเป้า ส่วนใหญ่รายได้จากไฟฟ้า แต่ในส่วนไลฟ์สไตล์ลดลงเพราะอยู่ในกลางกรุงเทพ เครื่องปรับอากาศเล็กไม่ขยาย แต่ก็เชื่อว่าจะกระทบแค่ 3 เดือนแรกเท่านั้น ทั้งปีน่าจะโตได้ตามเป้า 3 หมื่นล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 8% โดยปี 56 กำไรที่ 2,000 ล้านบาท
"ยังมั่นใจยอดขายปีนี้ที่ 3 หมื่นล้านบาท โต 20% ยังไม่ปรับ ส่วนใหญ่จากธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งไตรมาส 1 ยอดขายยังตามเป้าเพราะไฟฟ้าไปได้ดี เรียลเอสเตทปล่อยเช่าก็ยังดี ที่ชะลอคือไลฟ์สไตล์เพราะอยู่ใจกลางเมือง เครื่องปรับอากาศเล็กไม่ขยาย แต่โดยรวมไม่กระทบเพราะสัดส่วนต่อรายได้น้อย ซึ่งบี.กริม.ปรับกลยุทธ์โดยหันส่งออกมากขึ้นในส่วนของเครื่องปรับอากาศเล็กจากปัจจุบันส่งออก 1-2% ในปีนี้อัดงบการตลาด 30 ล้านบาทเพื่อโฆษณาเครื่องปรับอากาศจะได้ตลาดคนอื่นมากขึ้น หาลูกค้าใหม่ โดยตั้งเป้าจะส่งออก 10 ประเทศอาเซียน"