บลจ.กสิกรไทย เสนอขายกองทุนตราสารหนี้ตปท. 4 กอง ช่วง 3-8 เม.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 3, 2014 15:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 3-8 เมษายน 57 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีดี (KFF6MBD) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.85% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน แอล (KEFF3ML) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.85% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน พี (KEFF6MP) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี และกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี แอล (KEFF1YL) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.25 % ต่อปี โดยทุกกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

สืบเนื่องจากภาวะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวลดลง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.00% จากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ยังคงมีความเสี่ยงด้านการขยายตัว ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) ได้ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลง จากเดิมคาดไว้ที่ 4% เป็น 2.6% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค นักลงทุนและนักท่องเที่ยว ประกอบกับการลงทุนภาครัฐที่ล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ แต่การส่งออกในปีนี้คาดว่าขยายตัวได้ 5% โดยได้รับอานิสงค์จากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ดีขึ้น ทั้งนี้ยอดดุลการค้าล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มียอดเกินดุล 1.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะขาดดุล 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลสืบเนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีขึ้นหลังค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง และราคาข้าวที่ลดลง สำหรับเศรษฐกิจไทยแม้จะชะลอตัวลงมากในช่วงครึ่งปีแรก แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเริ่มฟื้นตัวชดเชยกับการชะลอตัวลงของช่วงก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจยังมีไม่มากนัก นอกเหนือจากการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงทรงตัวในระดับดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงเตรียมเสนอทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ไม่มากนัก แต่ยังคงต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจจากกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับเงินฝาก ในช่วงดอกเบี้ยต่ำ

สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุน KEFF3ML จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Bank of China เงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี ตราสารหนี้ Isbank, และตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี รวมทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ด้านตราสารหนี้ที่กองทุน KEFF6MP จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี ตราสารหนี้ Bank of East Asia และตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี รวมทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล ด้านกองทุน KEFF1YL จะลงทุนในเงินฝาก Bank of China เงินฝากของ China Construction Bank Corporation ตราสารหนี้ Bank of East Asia และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล ด้วยเช่นเดียวกัน และยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ Banco ABC Brasil S.A., ประเทศบราซิล โดยทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท

สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ภายในประเทศ บลจ.กสิกรไทย ขอแนะนำกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีดี (KFF6MBD) โดยกองทุนดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Bank of China ตราสารหนี้ Bank of East Asia และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิลด้วยเช่นเดียวกัน รวมทั้งยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, ประเทศไทย

โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ทั้งนี้ สำหรับกองทุน KFF6MBD ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ