"ทิสโก้"ปิดกองทริกเกอร์หุ้นไทยกำไร8%ย้ำปรับพอร์ตลงเอเชียเหนือ-ญี่ปุ่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday April 20, 2014 12:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาห์รัช ขัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า จากที่ บลจ.ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% Fund # 16" ซึ่งเป็นกองทาร์เก็ตฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายตอบแทนไว้ที่ 8% โดยจะเลิกกองทุนหากสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% โดยเสนอขายไปในช่วง 14-17 ม.ค.57 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด ณ วันที่ 2 เม.ย.57 กองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 8% โดย NVA อยู่ที่ 10.8144 บาท ทำให้เข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการได้ก่อนกำหนด โดยใช้ระยะเวลาเพียง 2 เดือนกว่าๆ เท่านั้น นับเป็นอีกกองทุนของ บลจ.ทิสโก้ ที่สร้างผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ และแสดงถึงความเป็นมืออาชีพใรการบริหารจัดการกองทุนทั้งด้านมุมมองที่แม่นยำ และการจับจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมได้เป็นอย่างดี

"จังหวะเวลาที่เราเลือกเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 16 ดังกล่าว เป็นช่วงที่หุ้นไทยมีการแกว่งตัวในระยะสั้นๆ ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง และการปรับฐานที่เกิดขึ้นทำให้ราคาหุ้นพื้นฐานดีในตลาดหุ้นไทยหลายตัวมีระดับราคาที่ไม่สูงนัก ทิสโก้จึงมองว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นไทยดังกล่าวเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน เพื่อเทรดทำกำไรระยะสั้น ซึ่งดัชนี วึ่งดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 1,390 จุด เป็นระดับที่กองทุนทำกำไรได้ 8% เข้าเงื่อนไขการปิดกองทุนก่อนกำหนดใช้เวลาในการบริหารกองทุนเพียง 2 เดือนกว่าเท่านั้น นับเป็นผลงานบริการกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่โดดเด่นอีกกองทุนหนึ่ง หลังก่อนหน้านี้ทิสโก้มีผลงานบริหารกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่โดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง" นายสาห์รัช กล่าว

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) มีมุมมองว่าตลาดหุ้นไทยในปีนี้ไม่ใช่ตลาดที่สามารถตอบโจทย์การลงทุนได้ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากระดับดัชนีปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1,390 จุด ขณะที่เป้าหมายดัชนีที่ทิสโก้มองไว้อยู่ที่ 1,420 จุด ทำให้มีอัพไซด์เหลืออยู่เพียง 2-3% เท่านั้นอีกทั้งตลาดหุ้นไทยยังคงต้องเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยด้านการเมือง และแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ส่อแววว่าอาจต้องมีการทบทวนและปรับลดตัวเลขการขยายตัวในที่สุด ทำให้ตลาดหุ้นไทยจึงไม่ใช่คำตอบหลักในการลงทุน แต่เหมาะสำหรับการลงทุนแบบทำกำไรระยะสั้น หากดัชนีมีการปรับฐานลงมาในระดับที่ต่ำกว่า 1,300 จุด ซึ่งในส่วนของ บลจ.ทิสโก้ มองว่าหากดัชนีปรับฐานลงทุนทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยอีกครั้ง

ทั้งนี้ TISCO Wealth แนะนำกลยุทธ์ลงทุนด้วยการให้ลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเหนือ (จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้) และญี่ปุ่น ที่โดดเด่นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้ตลาดหุ้นดัลกล่าวเป็นตลาดที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ