(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้เหวี่ยงลงเช่นเดียวกับตปท.,เกาะติดคำวินิจฉัยศาลรธน.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 7, 2014 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเหวี่ยงตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันถ้วนหน้าตามดาวโจนส์ร่วงแรง อันเนื่องมาจากแรงเทขายหุ้นในกลุ่มอินเตอร์เน็ต

นอกจากนี้ ตลาดบ้านเรายังต้องเผชิญกับปัจจัยการเมืองในประเทศ วันนี้ก็ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรีกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เที่ยงวันนี้ และในวันพรุ่งนี้(8 พ.ค.)คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จะพิจารณาผลสรุปการสอบสวนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตามข้อกล่าวหาละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

พร้อมให้แนวรับ 1,390-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(6 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,401.02 จุด ลดลง 129.53 จุด (-0.78%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,867.72 จุด ลดลง 16.94 จุด(-0.90%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,080.76 จุด ลดลง 57.30 จุด(-1.38%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 161.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 71.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.67 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.75 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.26 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.94 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(6 พ.ค.) ที่ 1,404.01 จุด ลดลง 17.47 จุด(-1.23%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 388.52 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 พ.ค.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(6 พ.ค.)ที่ 99.5 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(6 พ.ค.)ที่ 5.87 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.35/36 ตลาดจับตาศาลรธน.วินิจฉัยสถานภาพนายกฯคดีย้าย"ถวิล"
  • ศาลรธน.นัดชี้ชะตา"ยิ่งลักษณ์"คดีโยกย้าย"ถวิล"เที่ยงวันนี้ นายกฯ เบิกความสู้ยันไม่เคยแทรกแซง ทำเพื่อเครือญาติ เผยหากสิ้นสภาพทั้งคณะ นายกฯและรมต.หลุดเก้าอี้แค่ 10 ตำแหน่ง ป.ป.ช.จ่อชี้มูลคดีจำนำข้าว พรุ่งนี้
  • กกร.หวังการเมืองยุติภายใน 6 เดือนฟื้นความเชื่อมั่น หนุนเศรษฐกิจปีนี้โต 2.5-3.0% ระบุการลงทุนชะลอจากงบประมาณภาครัฐล่าช้า เอสเอ็มอีกระทบหนัก ขณะบีโอไอเผยยอดขอต่ำเป้า เหลือ 7 แสนล้าน นักลงทุนรอประเมินสถานการณ์การเมือง
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ว่าที่ประชุม กกร.มีมติที่จะเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาต่ออายุภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปัจจุบันอยู่ที่ 7% และจะหมดอายุในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ออกไปอีก 2 ปี เพราะหากไม่มีการต่ออายุภาษีมูลค่าเพิ่มจะปรับขึ้นเป็น 10% ทันที
  • "แบงก์ชาติ"เร่งจบแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้าย"เฟสแรก"ในไตรมาส 3 นี้ เปิดช่องบริษัทจดทะเบียนออกไปลงทุน ต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ยอมรับการเมืองในประเทศป่วนหนัก ทำภาคธุรกิจไปลงทุนต่างประเทศวูบ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AMATA(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 17.50 บาท ประเมินกำไรสุทธิใน 1Q57 ไว้ที่ 560 ล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น 647% QoQ และ 327% YoY ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองอาจกระทบไม่มาก เนื่องการเพิ่มขนาดการลงทุนต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมkของผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นทำให้ถอนการลงทุนและย้ายฐานการผลิตไปจากไทยค่อนข้างลำบาก นี้ปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะต่อไปมองที่การตั้งกองทุน REIT และการนำ บริษัท อมตะวีเอ็น (เวียดนาม)เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯใน 2H57
  • GFPT (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 17.60 บาท มองราคาหุ้นยังไม่สะท้อนพื้นฐานที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหลังประสบปัญหา Oversupply ในปี 55 ประเมินกำไรสุทธิในปี 57 และ 58 ขยายตัวราว 18% และ 12% YoY ตามลำดับ ต่อเนื่องจากที่โต 550% YoY ในปี 56 อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นมาที่ 15% และ 15.25% ตามลำดับ มองการทำ Joint Venture กับลูกค้าหลัก เช่น McKey หรือ Nichirei จะทำให้การขยายตัวในอนาคตมีความมั่นคงมากขึ้น
  • PTT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 347 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q14 เพิ่ม 71% Q-Q ตามผลกำไรของ PTTEP ที่เพิ่มขึ้นเพราะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ลดลง 27% Y-Y เพราะธุรกิจโรงกลั่นมีกำไรจากสต็อกน้ำมันน้อยกว่าปีก่อน ส่วนธุรกิจโรงแยกก๊าซคาดว่ากำไรเพิ่มขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y จากทั้งราคาขายเพิ่มและต้นทุนลด ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 57-58 โตเฉลี่ยเพียง 2.4% ต่อปี แต่ PE ปัจจุบันที่ 9.5 เท่า PBV 1.2 เท่า ต่ำกว่าภูมิภาคที่มี PE 10 เท่าและ PBV 1.5 เท่า
  • CENTEL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 35 บาท คาดกำไรปกติที่ 503 ล้านบาท +73% Q-Q, -24% Y-Y ถือว่าไม่โดดเด่นแต่ไม่ถึงกับเลวร้ายนัก เพราะโรงแรมในมัลดีฟช่วยชดเชยผลกระทบธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในประเทศได้บ้าง ผลประกอบการจะค่อยๆฟื้นตั้งแต่ 2Q14 หลังยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน
  • IRPC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ในฐานะที่เป็น Turnaround stock เป้าหมาย 4.50 บาท กำไรใกล้เคียงตลาดคาดหากตัดรายการพิเศษ กำไรปกติใน 1Q14 ลดลง 72% Q-Q แต่เพิ่ม 146% Y-Y คิดเป็นเพียง 13% ของกำไรทั้งปีที่คาดโต 221% Y-Y แต่แนวโน้มกำไรจะดีขึ้นจากการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่นให้เป็นโรงงานที่ครบวงจรมากขึ้นภายใต้โครงการ Phoenix ราคาหุ้นซื้อขายเพียง PBV 1 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ