SITHAI ตั้งเป้าปีนี้ยอดขายโต 12% ได้ออร์เดอร์ตปท.ชดเชยตลาดในปท.ชะลอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 21, 2014 16:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์(SITHAI) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 57 เติบโต 12% หรือคิดเป็นมูลค่า 10,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 56 ที่มียอดขาย 9,400 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับออเดอร์จากประเทศในอาเซียนและประเทศตะวันออกกลางเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบริษัทจะมีการขยายตลาดไปยังดูไบเพิ่มอีกด้วย

รวมถึงปีนี้บริษัทฯก็จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่ โดยจะนำไปวางขายที่ฮ่องกงก่อนเป็นประเทศแรก จากนั้นจะวางจำหน่ายในประเทศไทย

ทั้งนี้ แนวโน้มยอดขายไตรมาส 2/57 คาดว่าจะเติบโตได้ดีขึ้นกว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมา หลังจากไตรมาส 1/57 ยอดขายติดลบ 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อ แต่การที่บริษัทได้รับออร์เดอร์จาก บมจ.เสริมสุข(SSC)และอาเซียนเข้ามาช่วยหนุนยอดขายให้เติบโตได้ ประกอบกับ ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าลงด้วย

ปัจจุบัน ส่วนสัดส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 75% และต่างประเทศ 25% ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายปรับเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศขึ้นเป็น 27% และลดสัดส่วนในประเทศให้เหลือ 73% ภายในปีนี้ เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจลง

พร้อมกันนั้น บริษังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงชะลอตัว บริษัทจึงได้จัดงานมหกรรมลดราคาสินค้าขึ้นในกรุงเทพฯวันที่ 31 พ.ค-8 มิ.ย.57 และที่เขตอุตสาหกรมมสุรนารี จ.นครราชสีมา ในช่วงถัดไป ซึ่งจะลดราคาสินค้ามากกว่า 70% เชื่อว่าจะกระตุ้นให้ยอดขายเติบโตขึ้น

สำหรับการนำบริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เวียดนาม เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ขณะเดียวกันก็มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเวียดนามด้วย (ดูโอลีสติ้ง) นั้น นายสนั่น กล่าวว่า ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เวียดนาม มีการเติบโตต่อปี 40-50% สะท้อนถึงกำลังซื้อและการบริโภคในเวียดนามที่เพิ่มมากขึ้น และในอนาคตมีแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 100% ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการขยายกิจการ

ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างประเทศเวียดนามและจีน มีเกิดการประท้วงต่อต้านจีนในเวียดนามนั้น ขณะนี้บริษัทยืนยันว่าไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะยังคงมีกำลังซื้อที่ดีอยู่ แต่การลงทุนในปีนี้ก็คงต้องชะลอไปอีกสักระยะหนึ่งเพื่อประเมินสถานการณ์ดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ