IVL เทคโอเวอร์รง.PET ในตุรกีกำลังผลิต 1.3 แสนตัน/ปี เล็งลงทุนต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 3, 2014 12:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL)ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Artenius TurkPET ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET มีกำลังการผลิต 130,000 ตันต่อปี ตั้งอยู่ในเมืองอาดานา ประเทศตุรกี ในสัดส่วนร้อยละ 100
"ความเป็นผู้นำในธุรกิจในห่วงโซ่ PET ของ IVL จะช่วยเสริมให้บริษัท Turk PET สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า ประเทศตุรกีและพื้นที่โดยรอบเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนของเราในตุรกีเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่จะช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำระดับโลกของเราและเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน บริษัทคาดว่าจะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในพื้นที่นี้ต่อไป เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีจำนวนผู้บริโภคกว่า 76 ล้านคน เช่นเดียวกับที่เราเคยสร้างการเติบโตในประเทศไทย เรามองเห็นโอกาสที่คล้ายคลึงกันในการใช้ประโยชน์จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เรามีเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่"นยอาลก กล่าว

ทั้งนี้ ตุรกีเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ มีเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวของความเป็นเมืองอย่างมาก ส่งผลให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์ PET ในระดับสูง อีกทั้งที่ตั้งที่อยู่ในยูเรเชีย ทำให้สามารถเข้าถึงเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือและยุโรปใต้ได้โดยง่ายผ่านระบบขนส่งทั้งทางบกและทางทะเล

“ทีมผู้บริหารปัจจุบันของบริษัท Artenius TurkPET เป็นทีมที่มีคุณภาพ การร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยขยายการขายไปยังภูมิภาคใหม่ๆ ให้สามารถรองรับตลาดทั้งภายในประเทศและในระดับภูมิภาค การที่บริษัทมีการดำเนินธุรกิจในตลาดภายในประเทศครอบคลุมตลาดหลักที่สำคัญ จะช่วยให้เราเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำในภูมิภาคนั้นๆ ด้วยเช่นกัน"นายโลเฮีย กล่าว

การเข้าซื้อกิจการบริษัท Artenius Turkpet เกิดขึ้นหลังจากการลงนามในสัญญาเพื่อเข้าซื้อกิจการบริษัท Polyester Sanayi A.Ş (SASA) เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิสตันบูลในสัดส่วนร้อยละ 51 ทั้ง SASA และ Artenius TurkPET ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้เกิดความร่วมมือและเกื้อหนุนทางธุรกิจในอนาคตต่อไป

“เรามองว่าตุรกีเป็นตลาดที่สำคัญ รองรับตลาดยุโรปและตลาดเอเชีย-ตะวันออกกลาง การเข้าสู่ตลาดตุรกีแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ผสมผสานกับกลยุทธ์การบูรณาการในแนวดิ่งและแนวนอนไปยังผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA) ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำด้วยการผสมผสานผลิตภัณฑ์คอมโมดิตี้และผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มในกลุ่มเส้นใยภายใต้สภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่มีต้นทุนต่ำ และอยู่ใกล้กับทั้งตลาดที่กำลังพัฒนาและตลาดที่อิ่มตัว" นายโลเฮีย กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ