GUNKUL ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งงานโซลาร์รูฟชุมชนอย่างน้อย 10% ของ 800 MW

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 12, 2014 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าจะมีส่วนร่วมในโครงการโซลาร์รูฟชุมชนอย่างต่ำ 10% จากทั้งหมดที่ภาครัฐกำหนดให้การสนับสนุนราว 800 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าทางการจะสามารถทยอยให้ใบอนุญาตขายไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าวในช่วงไตรมาส 3/57 นี้

ทั้งนี้ บริษัทมีหลักการในการเข้าไปเจรจาและลงทุน 3 รูปแบบ คือ หากหมู่บ้านหรือชุมชนใดมีสถานะทางการเงินไม่พร้อม บริษัทก็เข้าไปลงทุนทำโซลาร์รูฟเองทั้งหมดแล้วแบ่งรายได้ให้กับหมู่บ้านหรือชุมชนนั้น หรือหากหมู่บ้านหรือชุมชนใดมีสถานะทางการเงินที่ดี บริษัทก็จะเสนอตัวเข้าไปร่วมลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟ รวมถึงหากหมู่บ้านหรือชุมชนใดมีสถานะทางการเงินที่ดีมาก บริษัทก็อาจจะเสนอตัวเข้าไปเป็นผู้รับเหมาติดตั้งโซลาร์รูฟ

"เราหวังว่าจะมีส่วนในโครงการ โซลาร์รูฟอย่างต่ำ 10% แต่จริงๆแล้วเราก็หวังที่จะได้ซัก 100 เมกะวัตต์ แต่การที่เราจะเข้าไปมีส่วนร่วมนั้นต้องดูที่ปัจจัยสำคัญ คือระบบสายส่งไฟฟ้าว่าหมู่บ้านไหนหรือชุมชนไหนที่ใกล้และเหมาะสมในการติดตั้งโซลาร์รูฟ" นายสมบูรณ์ กล่าว

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับ บริษัท ชูบุ พาวเวอร์เจน ที่มีความต้องการเข้ามาถือหุ้นโรงไฟฟ้าในพม่าที่ปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนถือหุ้นในเฟสแรกราว 51% ขนาดกำลังการผลิต 25 เมกะวัตต์ และในเฟสที่ 2 สัดส่วนราว 60% ขนาดกำลังการผลิต 25 เมกะวัตต์ โดย ชูบุ พาวเวอร์เจน ต้องการเข้ามาถือในโครงการไดโครงการหนึ่งในสัดส่วนราว 20% คาดว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปภายในเดือน มิ.ย.นี้

ในขณะเดียวกันบริษัทฯยังอยู่ระหว่างศึกษาการขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าในพม่าในเฟส 3 ว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกมากน้อยเพียงได คาดว่าจะได้ข้อสรุปราว ปลายเดือน มิ.ย.-ต้นเดือน ก.ค นี้

นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนราว 8.5 พันล้านบาทตั้งแต่เดือน ต.ค.57 ไปจนถึงปี 59 เพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 2 โครงการ โครงการละ 60 เมกะวัตต์ โดยโครงการแรกจะสามารถเริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปี 58 และโครงการที่ 2 จะสามารถจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปี 59 โดยบริษัทฯตั้งเป้าที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเป็นอย่างน้อย 300 เมกะวัตต์ภายในปี 59 โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตทั้งหมดราว 180 เมกะวัตต์

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่าจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นช่วงไฮซีซั่นปกติของธุรกิจ โดยมีปัจจัยจากความต้องการในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทที่จะได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า บริษัทยังคงเน้นเข้าประมูลงานในโครงการต่างๆ เพื่อให้ได้งานเพิ่มขึ้น โดยเตรียมประมูลงานใหม่ๆอีกกว่า 2-3 พันล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานประมาณ 20% ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มงานในมือ (Backlog)จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งมีกำหนดรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด ขณะที่บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 3 พันล้านบาท โดยจะเป็นการรับรู้ฯงานรับเหมา 1.4-1.5 พันล้านบาท การจำหน่ายไฟในพม่า 480 ล้านบาท จำหน่ายอุปกรณ์และสายส่งไฟฟ้า 1 พันล้านบาท รวมถึงรายได้จากการให้บริการอีก 50-60 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ